น้ำตกไรน์ จัดได้ว่าเป็นน้ำตกที่สวยสุดๆ ดูยิ่งใหญ่และทรงพลังมาก แถมยังเป็นใหญ่ที่สุดในยุโรปด้วยนะ จะไปเที่ยวประเทศสวิตเซอร์แลนด์ทั้งที ไม่แวะไม่ได้แล้วค่ะ
น้ำตกไรน์ (Rheinfall) นั้นมีต้นกำเนิดจากแม่น้ำไรน์ ตั้งอยู่บริเวณทางเหนือของ Zürich ซึ่งเป็นบริเวณพรมแดนระหว่าง Schaffhausen กับ Zürich ในสวิตเซอร์แลนด์ค่ะ และนอกจากนั้นน้ำตกไรน์อยู่ไม่ไกลจากประเทศเยอรมันด้วยนะ ห่างจากตรงด่านตรวจแค่ 15 กิโลเมตรเองค่ะ และนี่คือเหตุผลที่ใครมาเที่ยวเยอรมันแล้วแพลนจะไปเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ต่อ ควรแวะเที่ยวน้ำตกไรน์ด้วยนะคะ เพราะเป็นทางผ่านอยู่แล้วนั่นเองค่ะ
ทริปครั้งนี้ เราจะขับรถไปเที่ยวกันจากเยอรมันค่ะ โดยเอาจักรยานคันเล็กไปด้วย พวกเราสองคนคิดกันว่า เอาไปด้วย เผื่อปั่นเที่ยวในเมือง กรณีที่เราเดินจนเหนื่อยแล้วนั่น โชคดีที่เราสองคน ซึ่งพักอยู่ทางใต้ของเยอรมันอยู่แล้ว ทำให้ไปเที่ยวครั้งนี้ไม่ต้องขับรถไกล เพราะจากเมืองที่พักของเราไม่ไกลจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์เลยค่ะ ขับรถไปแค่ตรงชายแดนก็แค่ 135 กิโลเมตรเอง
เนื่องจากเป็นการเที่ยวในโควิด ถึงแม้ว่าในเยอรมันจะมีคนติดไม่เยอะมากแล้ว และแนวโน้มก็ยังลดลงเรื่อยๆ ทำให้ทางการมีการผ่อนปรนมากขึ้น แต่ถึงยังไงเราก็ยังต้องติดตามข้อมูลของการเดินทางออกนอกประเทศ และประเทศที่เราจะไปด้วย ว่ามีมาตราการอะไรไหม หรือต้อใช้เอกสารอะไรเพิ่มหรือเปล่า ซึ่งเราต้องอัปเดตข้อมูลทุกวันก่อนการเดินทางค่ะ
ประเทศสวิตเซอร์แลนด์น่าจะเป็นหนึ่งในประเทศที่คนติดโควิดน้อยมาก และลดจำนวนลงเรื่อยๆเหมือนกัน ทางการก็เริ่มให้ประชาชนใช้ชีวิตได้แทบปกติแล้ว ดูไม่ค่อยเคร่งเท่าประเทศอื่นๆ นั่นก็คือหนึ่งเหตุผลที่เราสองคนเลือกมาเที่ยวในครั้งนี้ค่ะ
เริ่มต้นการเดินทาง
เราสองคนออกจากที่พักที่เยอรมันประมาณสิบโมงกว่าๆ อย่างที่คิดไว้เลย เพราะพอเราขับมาถึงตรงด่านข้ามแดน เราก็ขับไปโดยที่ไม่มีคนตรวจอะไรเลยค่ะ ไม่ต้องใบตรวจโควิดอะไรทั้งนั้น พอข้ามได้หน่อยเราก็แวะปั้มน้ำมันตรงด่านซื้อ Vignette เพื่อติดหน้ารถกันก่อน ราคา Vignette 40 ฟรังก์สวิสค่ะ จากตรงด่านมาตรงน้ำตกไรน์ ไม่ไกลมาก ขับมาแค่ 15 กิโลเมตรก็ถึง ที่จอดรถพูดถึงก็มีเยอะอยู่นะ ที่เห็นๆก็ P1 -P4 แต่ที่ใกล้กับน้ำตกส่วนมากจะเต็มค่ะ เราเลยเลยพากันขับเลยไปที่จอดรถตรง P4 อาจจะต้องเดินหน่อยนะคะ แต่ที่จอดว่างเยอะกว่าที่อื่นๆเกือบครึ่งเลย
ตรงด่านผ่านได้สบายๆจากเยอรมันไปสวิตเซอร์แลนด์นะคะ ไม่ต้องใช้บัตร หรือแสดงใบอะไรเลย ดีมากๆ
ขับผ่านด่านมานิดหน่อยก็จะเจอปั้มน้ำมัน ตรงนี้เราจะต้องซื้อ Vignette กันก่อน ซึ่งเป็นค่าผ่านด่านกันเข้าประเทศสวิตเซอร์แลนด์ค่ะซึ่งราคาค่าผ่านด่านของสวิตเซอร์แลนด์จะอยู่ที่ประมาณ 40 ฟรังก์สวิส ซึ่งปัจจุบันเทียบเท่ากับประมาณ 38.50 ยูโร (ราคาปี 2021 กรณีหากคุณขับรถ หรือยานพาหนะที่ไม่เกิน 3.5 ตันหรือรถจักรยานยนต์ )
บรรยากาศบริเวณหน้าปั้ม
ที่อยู่ของน้ำตก Rheinfallquai, 8212 Neuhausen am Rheinfall, Schweiz
ค่าที่จอดรถ
ค่าที่จอดรถ 5 ฟรังก์สวิสต่อชั่วโมง ชั่วโมงต่อไป 2 ฟรังก์ เป็นกดเอาบัตรตอนเข้า ก่อนเรากลับค่อยไปจ่ายที่ตู้จ่ายเงินค่ะ
ระหว่างทางเดินจากที่จอดรถไปน้ำตกทางเดินจะประมาณนี้ค่ะ คนเดินเยอะไม่ต้องกลัวค่ะ เราแค่พยายามถ่ายไม่ให้ติดคนแค่นั้นเอง
ราคาตั๋วสำหรับนั่งเรือ
แบบธรรมดา ผู้ใหญ่ ราคา 6 ฟรังก์สวิต และเด็กราคา 4 ฟรังก์สวิต
แบบไป-กลับ ผู้ใหญ่ ราคา 9 ฟรังก์สวิต และเด็กราคา 5 ฟรังก์สวิต (30 นาที)
อัปเดตข้อมูล https://rheinfall.ch/de/erleben/erleben/attraktionen/schiffmaendli.html
Schlössli Wörth ตรงนี้จะมีร้านอาหารแบบพาโนรามา เห็นน้ำตกแบบเต็มๆเลยค่ะ
จะเปิดเฉพาะ เดือนมีนาคม-ตุลาคม เท่านั้น วันพุธ – วันเสาร์ เวลา 11.30 – 23.00 น. และในวันอาทิตย์: 11.30 – 20.00 น.
อัปเดตข้อมูล https://www.schloessliwoerth.ch/
น้ำตกไรน์แห่งนี้ มีความกว้างถึง 150 เมตรและสูง 23 เมตรเลยทีเดียว ถือได้ว่ากว้างมากๆ เราสองคนทึ่งในความยิ่งใหญ่และทรงพลังของน้ำตกมากๆ น้ำเยอะมากๆ คิดว่าอาจเป็นช่วงนี้ที่ฝนตกบ่อยมาก ทำให้น้ำตกมีน้ำเยอะเพิ่ม จากที่เยอะอยู่แล้ว เลยยิ่งดูอลังการเพิ่มขึ้นไปอีก พอจอดรถเสร็จแล้ว เราเดินจากที่จอดรถมาตรงน้ำตกไม่ไกลค่ะ ถึงแม้วันที่เราไปเที่ยวนั้น อากาศอาจจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะเหมือนมีเค้าว่าฝนจะตก แต่นักท่องเที่ยวก็เห็นเยอะเหมือนกันนะ
เห็นยิ่งใหญ่และทรงพลังมากๆค่ะ สุดยอดมากๆ
สำหรับคนที่มีเวลาก็สามารถที่จะนั่งเรือเที่ยว เพื่อสัมผัสและดูความยิ่งใหญ่ของน้ำตกไรน์อย่างใกล้ชิดได้ด้วยค่ะ ซึ่งมีอยู่หลายราคา หลายรูปแบบให้เลือกค่ะ
เราเดินเที่ยวและถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ก่อนที่จะข้ามสะพานเพื่อไปตรงปราสาทกันค่ะ
เดินจนไปถึงสะพานข้างหน้า และข้ามสะพานไปกันค่ะ จะได้มุมถ่ายรูปอีกหลายมุมเลย
รูปนี้ถ่ายจากบนสะพานค่ะ
ข้ามสะพานมากันแล้วเดินมาเรื่อยๆ ก่อนเข้าปราสาท Schloss Laufen am Rheinfall จะเห็นว่ามีร้านอาหาร สนามเด็กเล่นอยู่ข้างหน้าเลย ตรงจุดนี้นักท่องเที่ยวคึกคักมากค่ะ
ภายในปราสาทเส้นทาง Belvédère สู่จุดชมวิว (Belvédère, Fischetz และ Känzeli – ตรงที่น้ำตกไรน์) และมีลิฟต์พาโนรามา (เหมาะสำหรับคนที่มีรถเข็นเด็กและเก้าอี้รถเข็นด้วยค่ะ)
นอกจากนั้นยังมีร้านขายของที่ระลึก และมีที่ขายตั๋วแบบเครื่องขายตั๋ว หรือเราจะจองออนไลน์ก็ได้ค่ะ
เมื่อเดินเข้ามาในปราสาท Schloss Laufen am Rheinfall ปรากฎว่าเค้าจำกัดพื้นที่ในการถ่ายรูปจากส่วนในนี้เยอะเลยค่ะ เพราะต้องเป็นแขกที่พักที่นี่เท่านั้นหรือไม่ก็ต้อซื้อตั๋วเท่านั้นค่ะ ที่จริงตั๋วก็ไม่ถือว่าแพงนะคะ แต่เราไม่มีเวลาแค่นั้นเองค่ะ เราเลยต้องตัดใจไว้คราวหน้าละกัน และคราวหน้าเราจะนั่งเรือเที่ยวกันด้วยค่ะ
เดินเที่ยวกันประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นเราก็เดินทางกลับมาที่รถ แวะจ่ายเงินที่จอดรถตรงตู้ที่จ่ายเงิน ตรงจ่ายเงินนี้นี้เราจ่ายเป็นเงินยูโรหรือเงินฟรังก์ก็ได้นะคะ เราเสียค่าจอดรถไป 7 ฟรังก์ค่ะ พอจ่ายเสร็จแล้วก็เดินทางต่อเพื่อไปที่พัก ที่เราสองคนจองไว้ ซึ่งเป็นของ Airbnb ที่เมือง Vallamand กันต่อไปค่ะ
สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง https://rheinfall.ch/de/
ที่พักของเรา
ในสามคืนแรกของทริปจะพักที่นี่ค่ะ เราสองคนจองผ่าน Airbnb ผู้ให้เช่าและเจ้าของของบ้าน คือคุณอีเนส (ผู้หญิง)
ที่อยู่ของที่พัก Chemin des Vignes 16, 1586 Vallamand, Switzerland
ห้องพัก ชั้นที่เราสองคนอยู่ล่างก็ถือสะดวกสบายดีค่ะ ห้องกว้างพอใช้ได้ มีห้องน้ำในตัว แถมยังสวย สะอาดถูกเราเป็นอย่างมาก มีวิวที่เห็นทะเลสาบชัดเจนจากห้องของเราเลย ส่วนครัวเราสามารถขึ้นไปใช้กับคุณอีเนสได้ในชั้นบนเหมือนกัน ในกรณีที่เราอยากทำกับข้าวทานเองนะคะ
อ่านรีวิวที่พักเพิ่มเติมได้จากตรงนี้เลยจ้า รีวิวห้องพัก Airbnb 4 ที่ 4 สไตล์ ที่สวิตเซอร์แลนด์ ( Road Trip 14 วัน )
อินเตอร์เน็ตที่นี่ก็มีนะ ไวไฟคือแรงดีมากค่ะ ซึ่งเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เราชอบมาก คุณอีเนสพูดแต่ภาษาฝรั่งเศษนะคะ แต่พูดเยอรมันและอังกฤษได้นิดหน่อย เลยพอสื่อสารกันได้ค่ะ ไม่งั้นคงแย่แน่เลย เพราะเราสองคนพูดฝรั่งเศษไม่ได้เลยค่ะ 5555 แต่บอกเลยคุณอีเนสนิสัยดีมากๆเลยค่ะ
การเดินทางของเราเริ่มต้นแล้ว เย้ๆๆ บอกเลยว่าเราสองคนตื่นเต้นกับทริปนี้มากๆค่ะ ภายใน 2-3 วันนี้ เราจะไปเที่ยวไหนบ้าง เดี๋ยวมารอติดตามกันนะคะ 🙂