วันนี้เราตื่นแต่เช้าเพื่อ check out และบอกลาคุณอีเนส เพื่อเดินทางไปต่อที่เมืองโลซานเราพากันเก็บกระเป๋าและขนกระเป๋าไปที่รถ บอกลาเพื่อนบ้านที่อยู่บ้านใกล้ๆที่จอดรถ ทุกคนนิสัยน่ารักมากอัธยาศัยดีเพื่อนบ้านคนนี้ก็ทักทายเราสองคนทุกเช้า เขาพูดภาษาเยอรมันดีมากเลยคุยกันได้ถูกคอ แนะนำที่ท่องเที่ยวต่างๆในรอบๆเมืองให้เราด้วย นี่คือข้อดีของการพักแบบนี้ คือจะเห็นเพื่อนบ้านที่นิสัยดีน่ารักมีความเป็นกันเอง ไม่เหมือนกับพักในเมืองที่เราต่างก็ไม่รู้จักใคร ต่างคนต่างไป

ต่อมาจากตอนที่ผ่านมา
วันเดินทาง เที่ยวน้ำตกไรน์ (Rheinfall) น้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป
วันที่ 2 เที่ยวเมือง Bern เมืองหลวงของสวิตเซอร์แลนด์
วันที่ 3 เที่ยวเมือง Murten เมืองสวยริมทะเลสาบ
…..หลังจากร่ำลากันเสร็จแล้ว 10 โมงกว่าๆแล้ว เราก็เดินทางกันต่อ แต่เนื่องจากเรายังมีเวลาอีกหลายชั่วโมงก่อนที่จะเข้าที่พักใหม่ เรามีเวลาถึง 16:00 น เลย เพราะว่าเจ้าของห้อง เค้าส่งข้อความมาบอกว่าเขาติดธุระด่วนไม่สามารถที่จะมาก่อนหน้านั้นได้ สามีเห็นว่ามีเวลาอยู่หลายชั่วโมง เลยเสนอว่าอยากหาที่เล่นน้ำกันเพราะวันนี้อากาศร้อนดีด้วย โดยให้เราเสิร์ชหาในอินเตอร์เน็ตว่ามีที่ไหนที่เราสามารถเล่นน้ำได้โดยไม่ต้องเสียค่าเข้ามั่ง เช่นที่เป็นที่เล่นน้ำสาธารณะตามทะเลสาบต่างๆ เราก็เลยลองหาดูในอินเตอร์เน็ตปรากฏว่ามีที่หนึ่ง ซึ่งก็อยู่ระหว่างทางพอดีชื่อ Plage d’Yverdon-les-Bains ที่จริงที่สวิตเซอร์แลนด์มีที่เล่นน้ำสาธารณะอยู่เยอะมากค่ะ เนื่องจากเป็นประเทศที่มีทะเลสาบเยอะอยู่แล้ว ที่เราเลือกตรงนี้เพราะเป็นทางผ่านค่ะ
พอเราขับรถไปถึง Plage d’Yverdon-les-Bains ที่เราอยากเล่นน้ำซึ่งใช้เวลาขับไม่นานใช้เวลาขับประมาณ 30 นาทีก็ถึงปรากฏว่าก็ต้องผิดหวังเพราะว่าเขาปิดไม่ให้เล่น เนื่องจากอาทิตย์ก่อนหน้านั้น มีฝนตกหนักทำให้บริเวณหลายพื้นหลายบริเวณในที่เล่นในเขตนี้มีน้ำท่วมขัง ทำให้ทางเจ้าหน้าที่มาปิดไว้ห้ามเล่นโดยเด็ดขาด เสียดายจังเลย เราได้แต่เดินดูรอบๆก็เห็นได้ว่ามีน้ำท่วมขังจริงๆ กำลังคิดว่าเราจะไปหาที่ใหม่กันไหม จะทำยังไงกันต่อเพราะเรายังมีเวลาอีกหลายชั่วโมงเลยกว่าจะถึง 16:00 น


ว่าจะหาที่เล่นน้ำใหม่ ลองหาดูใน GPS จะเห็นว่ายังมีอีกหาดที่อยู่ใกล้ๆกันซึ่งเล็กกว่าชื่อ La Petite Plage ก็กลัวจะเป็นแบบเดิมอีก เราก็เลยบอกสามีว่าเดี๋ยวเราลองไปเดินเล่นในตัวเมือง Yverdon-les-Bains กันไหมละ เพราะเราลองเปิดดูในอินเตอร์เน็ตดูแล้วเมืองก็ดูสวยดีนะ สามีก็เห็นด้วย ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ว่าแล้วเราจอดรถไว้ตรงนี้ต่อแล้วกัน เพราะเราเสียค่าที่จอดรถแล้วเนาะ จะได้ไม่ต้องเสียค่าที่จอดรถอีกรอบ ที่จริงถ้าเดินเข้าไปในเมือง ก็ถือว่าไม่ไกลเท่าไหร่นะคะ น่าจะประมาณกิโลกว่าๆ เท่านั้นเอง แต่เนื่องจากเราคิดว่า เราเอาจักรยานมาด้วย ว่าแล้วเราก็ปั่นจักรยานเข้าไปเที่ยวกันดีกว่า



เมืองนี้สวยสะดุดตามากประทับใจตั้งแต่แรกเห็น หรือจะเรียกว่าตั้งแต่ก้าวแรกก็ได้ค่ะ เมืองYverdon-les-Bains นี้อยู่ใน Kanton Waadt ค่ะ อยู่ในทางตะวันตกเฉียงใต้ของทะเลสาบ Neuenburgersee

ปั่นจักรยานมาในเมืองใช้เวลาปั่นไปประมาณ 15 นาทีก็ถึง พอมาถึงก็ทึ่งมาก เพราะไม่นึกถึงว่าเมืองจะสวยน่ารักอย่างนี้ ดอกไม้เต็มไปหมดเลย ดูสวยกว่าในอินเทอร์เน็ตอีกค่ะ ว้าวววว…..พอเราหาที่จอดรถจักรยานได้แล้วเราก็พากันเดินดูรอบๆเมืองกัน อาจจะเป็นวันทำงานคนเลยไม่ค่อยเยอะ โดยรอบๆเมืองสวยดูสะอาดตามาก เดินผ่านมีร้านอาหารไทยด้วยหรือร้านขายของขายก็ไม่แน่ใจ แต่เราไม่ได้แวะเข้าไปค่ะ

จะเห็นได้ว่าที่นี่เป็นเมืองเก่าทางประวัติศาสตร์ มีวัฒนธรรมและเหมาะกับการพักผ่อนมากๆ เพราะไม่แค่นั้นนะ จากที่อ่านดูเห็นว่าที่นี่มีชื่อเสียงด้านศูนย์สุขภาพ หรือที่เรียกว่า บ่อน้ำร้อน ที่เป็น Thermalbad Yverdon-les-Bains ด้วยนะคะ ที่มีชื่อเสียงของที่นี่

ข้อดีของการมาเที่ยวในช่วงหน้าร้อนคือประเทศทางยุโรปเขาจะนิยมปลูกดอกไม้ประดับกัน ซึ่งดูสวยสดใสมากๆค่ะ ชอบจัง 🙂


ตรงจัตุรัสกลางเมืองก็มีร้านอาหารน่านั่งหลายร้านเลยพร้อมตึกที่มีสีสันรอบๆสวยสะดุดตาเชียว


ถ้าเดินทะลุตรงนี้ไปจะเป็นห้างสรรพสินค้าค่ะ และเลี้ยวขวาเดินตรงมุมตรงนั้นหน่อยจะเห็นมีร้านไทยอยู่ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นร้านอาหาร หรือร้านขายของชำนะคะ แต่เห็นว่าเป็นมีธงชาติไทยอยู่หน้าร้าน

แม่น้ำนี้เป็นแม่น้ำเล็กๆที่ไหลมาจากแม่น้ำ Aare ค่ะ

จากมุมนี้จะเห็นปราสาท Schloss Yverdon-les-Bains ค่ะ


ถ่ายข้างๆปราสาท Schloss Yverdon-les-Bains ขวามือในรูป ตรงจุดนี้จะมีห้องน้ำสาธารณะให้เข้าฟรีนะคะ


ถ้าจะเดินเที่ยวรอบๆเมืองอย่างเดียวเหมือนเราสองคน แค่ 2 ชั่วโมงก็เดินรอบแล้วค่ะ เพราะเมืองนี้ไม่ใหญ่มาก แต่ก็มีมุมถ่ายรูปสวยๆเยอะเลยใครชอบถ่ายรูปคงชอบ


เดินเที่ยวจนพอใจก็พากันมานั่งดื่มเครื่องดื่มเย็นๆตรงร้านอาหารตรงกลางสวนจัตุรัสกลางเมือง ซึ่งมีร้านอาหารอยู่หลายร้านน่านั่งทั้งนั้นเลย คิดไม่ผิดที่เลือกเข้ามาเที่ยวในเมืองเลยค่ะ ใครผ่านมาแถวนี้ลองแวะเข้ามาเที่ยวเมืองนี้ดูนะ เราว่าสวยมากๆเลยค่ะ ประทับใจจริงๆค่ะ

พอถึงเวลา 15:00 น แล้วก็พากันปั่นจักรยานกลับมาที่รถ เพื่อเดินทางต่อไปถึงที่เมืองโลซาน ซึ่งกะเวลาว่าคงไปถึงนั่นประมาณ 16:00 น พอดี ตามเวลานัดกับเจ้าของห้องที่เราจะไปพัก
เดินทางมาถึงเมือง Laussane
พอเราขับรถมาถึงเมืองโลซาน ก็มาเจอน้องเจ้าของที่พักพอดีเลยได้ทักทายกัน และน้องก็รีบให้กุญแจแล้วก็บอกว่าจะต้องรีบไป เนื่องจากคุณยายเสียกะทันหัน นั่นแหละคือเหตุผลที่น้องเอากุญแจมาให้มาสายซึ่งพอให้กุญแจเราเสร็จแล้ว น้องจะต้องนั่งเครื่องบินไปเพื่อร่วมงานศพยายต่อ เราได้แต่แสดงความเสียใจ เพราะคิดไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ แต่น้องบอกว่าไม่เป็นไรเพราะว่ายายชรามากแล้ว และทุกคนก็รู้ว่าวันนี้ต้องมาถึง (ยายอายุเกือบ 100 ปีแล้วค่ะ) พอได้กุญแจมาแล้วเราก็เข้าไปในห้องเข้าไปในตึก
ที่นี้เราเพิ่งนึกออกว่าอ้าวน้องยังไม่ได้ให้ password ในการเข้าตึกเลยแล้วจะเข้าไปได้ยังไง โชคดีที่มีคุณยายคนหนึ่งคือกำลังเดินมาจะเข้าตึกพอดี เราเลยเข้าไปด้วย พอเข้าตึกไปแล้ว อ้าวครั้งที่ 2 ว่าแล้วห้องอยู่ชั้นไหน น้องไม่ได้บอก เราสองคก็ลืมถามด้วย เป็นตึกหลายชั้นด้วยซิ ยายเห็นเราสองคนยืนงงๆอยู่ ก็เลยเข้ามาถามเป็นภาษาฝรั่งเศสแบบรัวๆ คงอยากช่วยเหลือว่าเราอยู่ห้องไหนจะไปยังไงอะไรยังไง ปรากฏว่าเราฟังไม่รู้เรื่อง 5555 เราสองคนได้แต่ทำหน้างงๆ และพยายามพูดกับยายเป็นภาษาอังกฤษ เผื่อว่ายายจะฟังออกมั่ง เพราะเราทั้งสองคนไม่สามารถที่จะฟังภาษาฝรั่งเศสหรือพูดภาษาอังกฤษฝรั่งเศสได้เลย ปรากฏว่ายายก็ไม่รู้เรื่อง เพราะยายก็พูดภาษาอังกฤษก็ไม่ได้เยอรมันก็ไม่ได้ เรารู้ว่ายายอยากจะช่วยแต่เราก็ไม่รู้จะบอกยังไงดี ยายอยากช่วยแต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ ว่าแล้วแกก็บอกลาแล้วก็อวยพรให้โชคดี เราสองคนรู้สึกประทับใจมากถึงความมีน้ำใจของยายและคนที่นี่ถึงแม้ว่าเราจะสื่อสารกันไม่ได้ แต่รู้สึกได้ว่าเขาอยากช่วยเราจริงๆ
พอยายขึ้นไปที่ห้องแกแล้ว เราก็เลยเดินตามชั้นต่างๆเพื่อส่องดูชื่อหน้าห้องว่าชื่อไหนมาเป็นชื่อน้องที่เราจะเข้าพัก ที่จริงเราส่งข้อความไปถามน้องแล้วน้องยังไม่ตอบเลยขี้เกียจรอ แล้วเราก็หาเจอค่ะที่จริงอยู่ชั้น 1 เองอยู่ใกล้ประตูทางเข้าเลย เราสองคนก็พาหาซะหลายชั้นเลย ฮ่าๆๆ
ที่พักของเราที่เมือง Laussane

ที่จริงแล้วห้องที่เราพักนี้ เป็นห้องเช่าที่น้องเขาเช่าอยู่แล้ว บังเอิญมีหลายห้อง และมีห้องว่าอยู่ห้องหนึ่ง ระหว่างที่รอเพื่อนร่วมห้องใหม่อยู่ ซึ่งผู้เช่าคนใหม่จะมาเดือนกันยายนนั้น น้องเลยแบ่ง ใช้ห้องว่างนี้ให้เป็นห้องเช่าสำหรับ airbnb ไปก่อนในระหว่างที่รอ ซึ่งเป็นความโชคดีของเรามาก เพราะว่าห้องเช่าที่น้องให้เช่าอยู่นี้ ถูกมากๆและโลเคชั่นก็ดี เพราะตั้งอยู่ในตัวเมืองเลย เดินทางสะดวกคือถ้าใครไม่มีรถก็สามารถนั่งรถไฟหรือนั่งรถบัสมาก็ได้ เพราะสถานีรถไฟก็อยู่ไม่ไกลจากบ้านพักของน้องเลยค่ะ
°°°°°°° อ่านรีวิวห้องพัก Airbnb ทั้ง 4 ที่ 4 สไตล์ ที่สวิตเซอร์แลนด์ (Road Trip 14 วัน)
แต่ความไม่สะดวกอาจจะอยู่ก็ตรงที่ ห้องน้ำไม่ใช่ห้องเดี่ยว ซึ่งต้องใช้ร่วมกันกับน้องๆ ทั้ง 3 คนนั่นเอง และห้องครัวด้วยก็ต้องใช้ร่วมกัน (จะพูดไปก็คล้ายๆกับ WG ที่เยอรมันค่ะ) แต่ยังไงก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเราสองคนนะ เพราะว่าส่วนมากเราสองคนไปเที่ยวข้างนอกกันทั้งวันอยู่แล้ว เราใช้เวลาในที่พักแค่ช่วงค่ำเท่านั้น เพราะฉะนั้นการใช้ห้องน้ำหรือครัวห้องครัวร่วมกันมันจึงไม่ใช่ปัญหาสำหรับเราสองคน และอีกอย่างเรา 2 คนก็เป็นคนง่ายๆอยู่แล้วค่ะ

ขณะที่กำลังปูเตียงอยู่ก็ได้ยินเสียงแมวเดินเข้ามาทำให้นึกออกว่าตอนที่เราเช่าน้องเขียนลงในรายละเอียดอยู่ว่าที่ห้องเลี้ยงแมวเราเป็นคนชอบแมวอยู่แล้วสำหรับเราไม่มีปัญหาและน้องแมวก็น่ารักมากเข้ามาทักทาย เข้ามาเพื่อบอกว่าฉันเป็นเจ้านายของที่นี่ก็ไม่แน่ใจนะ 5555

พอเราสองคนขนกระเป๋าจากรถและของของทุกอย่างขึ้นห้องพักเสร็จเรียบร้อยแล้ว จากที่เปิด GPS ดูก็เห็นได้ว่าท่าเรืออยู่ไม่ไกลจากที่พักแล้วมาก เพราะเราอยากเดินลงไปเล่นตรงริมทะเลสาบ ถึงแถวนั้นน่าจะเป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญเพราะว่าเป็นท่าเรือด้วย เราเดินลงไปกันปรากฏว่าต้องใช้กำลังขาพอสมควรเพราะว่าถนนมีความชันมาก จากที่พักมีความชันสูงมากตอนเดินลงก็ไม่ใช่ปัญหา แต่โดนตอนเดินกลับนี่สิ คงต้องเหนื่อยหน่อย ระหว่างเดินลงไปเราทั้งสองคนเลยคุยกันว่า วันหลังเราจะปั่นจักรยานลงไปกันดีกว่าเพราะอย่างน้อยจักรยานเราก็เป็นจักรยานไฟฟ้า เพราะฉะนั้นตอนขึ้นเราก็ใช้แรงไฟฟ้าปั่นขึ้นเอาซึ่งน่าจะทุ่นแรงได้กว่า
เดินไปเดินมาจนเริ่มค่ำแล้ว เรายังอยู่ที่นี่อีกหลายวันเดี๋ยวค่อยหาโอกาสมาเที่ยวและสำรวจเมืองนี้ใหม่กัน ตอนนี้กลับที่พักกันดีกว่า ก่อนกลับเห็นว่ามี Supermarket อยู่ใกล้ๆเลยแวะซื้อของ เช่นผักขนมปังแล้วก็ผลไม้ต่างๆเพื่อเตรียมไว้สำหรับทำแซนวิชและของกิน สำหรับการเดินทางเที่ยวพรุ่งนี้ จากนั้นก็พากันกลับค่ะ ถือได้ว่าเป็นวันที่ดีอีกวันหนึ่งมีความตื่นตาตื่นใจในทุกวันเวลาที่เห็นสถานที่ใหม่ๆ พรุ่งนี้เราจะไปเที่ยวที่ไหนกัน รอติดตามกันนะคะ สำหรับวันนี้ สวัสดีค่ะ 🙂