Führerschein (4)

ประสบการณ์ทำใบขับขี่เยอรมัน ตอนสอบข้อเขียน

Blog & Review

ต่อจากโพสที่แล้ว พอสามีอนุญาต ก็ลุยเดี่ยวเลยจ้า เข้าไปข้อมูลและรายละเอียดจากโรงเรียนสอนขับรถใกล้ๆบ้านก่อน

จากข้อมูลที่อ่านมาคือ เราสามารถเทียบใบขับขี่ได้ กรณีถ้าใครเคยมีใบขับขี่จากเมืองไทยมาก่อน (แต่ต้องแบบ 5 ปีนะ) ซึ่งมีข้อดีหลายๆอย่างเช่น ไม่ต้องไปนั่งเรียนทฤษฎี แต่เราสามารถอ่านด้วยตัวเองและไปสอบได้เลย และเวลาเรียนขับ ก็ไม่ต้องเรียนขับกลางคืน คือทำให้ประหยัดเงินส่วนนี้ไป

ระหว่างที่รอเอกสาร เราก็เริ่มอ่านหนังสือรอ โดยสั่งหนังสือมาจาก Amazon มาอ่านรอ ยอมรับว่าเครียดมาในการอ่านหนังสือสอบใบขับขี่ในครั้งนี้ เนื่องจากโดนกดดันจากสามีให้สอบเป็นภาษาเยอรมัน แล้วเราใช่ว่าเก่งภาษาเยอรมันเนาะ พอมาเจอคำศัพท์ใหม่ต่างๆเกียวกับการขับรถในหนังสือเนี่ย คือไปไม่เป็นเลย คือต้องเปิดดิกชันเนอรี แทบทุกคำถามจริงๆ เครียดมากๆ ถึงมากที่สุด 

ตอนนั้น อ่านไปได้แค่ 1-2 อาทิตย์แทบจะไม่มีอะไรในหัวเลย เพราะอ่านไม่รุ้เรื่อง เพราะมัวแต่เปิดดิก เสียเวลามาก เลยขอต่อรองกับสามี ขอสอบเป็นเป็นภาษาอังกฤษได้ไหม? สามีบอกได้ แต่จะไม่ช่วยออกตังค์ให้ซักบาท  โอ้ย!! ทำไมใจร้ายแท้ เราเลยต้องกลับมาอ่านหนังสือสอบเป็นภาษาเยอรมันเหมือนเดิมค่ะ

วันนั้นจำได้ว่าไปอ่านเจอในบทสัมภาษณ์ของคนที่หมอคนหนึ่ง เกี่ยวกับสมองคนเราและความจำ ทำให้เรามาประยุกต์ใช้ในการอ่านหนังสือของเราคือ ” การอ่าน ควรอ่านจากง่ายไปหายาก และหาเวลาอ่านหนังสือในตอนเช้า ซึ่งเป็นช่วงที่สมองว่าง จะจดจำได้ดีกว่าตอนเย็น ” และทริคจากสามีที่คอยอธิบาย ข้อใหนยากๆที่เราไม่เข้าใจ หรือคำศัพท์คำไหนที่ไม่รุ้ แกก็อธิบาย (เป็นภาษาเยอรมัน)แบบง่ายๆ แล้วให้เหตุผลทำไมข้อนั้นถึงถูก แต่ถ้ายังไม่เข้าใจอีก แกก็วาดภาพให้ดู เพื่อให้เรานึกภาพออก 5555  (เป็นสิ่งเดียวที่แกช่วย และช่วยได้มากจริงๆ) เราอ่านเริ่มเข้าใจมากขึ้น กำลังใจเริ่มดีขึ้นมากๆ 

เราตื่นแต่ ตี 4 ตี 5 หรือช้าสุด 6 โมงเช้าในการอ่านทุกวัน และทำจากในแอปในมือถือด้วย อ่านทุกวันไม่มีขาด เพราะตอนบ่ายต้องไปทำงานแล้ว มันหนักตรงที่งานเราต้องเข้ากะ และต้องทำงานวันเสาร์ด้วย คือเหนื่อยมากกก… และถ้าวันไหนเราเข้ากะเช้า อ่านตอนหนังสือตอนเย็นจะไม่รุ้เรื่องละ เพราะสมองมันเหนื่อย มันล้าแล้ว ทำได้อย่างเดียวทบทวนจากที่อ่านมาแค่นั้น (แต่จะไม่อ่านเรื่องใหม่) และวันอาทิตย์เป็นวันเดียวที่สามีช่วยอธิบายได้ เพราะฉะนั้นวันนั้นเราจะอ่านหนังสือทั้งวัน แต่จะเบรคเป็นพักๆ เพื่อที่สมองจะไม่ล้าจนเกินไป

อ่านเพิ่มเติม : การอ่านหนังสือให้สอบผ่าน แบบละเอียด

เกือบ 3 เดือนเต็มที่เราอ่านหนังสือ เอกสารทุกอย่างพร้อมแล้ว ก็ไปบอกให้โรงเรียนนัดสอบให้ พนักงานคนที่รับเรื่องถาม จะสอบภาษาเยอรมัน หรือภาษาอังกฤษ? เราตอบ ภาษาเยอรมัน พนักงานมองหน้า แน่ใจนะ?! เพราะถ้าเค้าจองให้เราว่าจะสอบเป็นภาษาเยอรมันแล้วแล้วจะเปลี่ยนใจไม่ได้นะ ถ้าเธอเปลี่ยนใจ เธอต้องจองใหม่ และต้องรออีก 2-3 อาทิตย์ถึงได้สอบ เราบอก เรามั่นใจ เราจะสอบเป็นภาษาเยอรมัน …พนักงานมองหน้า และไม่พูดอะไรต่อ…

ก่อนสอบ เราขอที่ทำงานลางานก่อนสอบ 1 อาทิตย์ เพื่อที่จะมีเวลาอ่านให้เต็มที่ ตอนนั้นบอกเลยรุ้สึกมีความมั่นใจแค่ 70-80 % เอง กลัวไม่ผ่านอยุ่เหมือนกันนะ แต่ใจมันอยากสอบแล้ว ไม่อยากรอแล้ว อยากสอบให้เสร็จๆ จะได้เรียนขับรถต่อ อย่างที่บอก เวลามันผ่านไปเรื่อยๆ กลัวหน้าหนาว กลัวหิมะตกก่อนเรียนขับรถ…

วันสอบข้อเขียน ( Theorie Prüfung )

ตื่นแต่เช้า สามีขับรถมาส่งที่ขนส่ง (TÜV) ซึ่งเป็นสถานที่สอบในเมืองที่อยุ่ ก่อนแกจะเลยไปทำงาน แกหันมาพูด ว่า อย่าเกร็ง ทำให้เต็มที่ และ Viel Erfolg ขอให้โชคดีนะ แกยิ้มให้กำลังใจ ❤

ในรอบที่เราสอบ มีคนมารอสอบประมาณ 20 คน
และส่วนมากเป็นวัยรุ่นฝรั่งเยอะ ทั้งชายหญิง ทุกคนดูมีความมั่นใจกันมาก ส่วนเรานั้น คงไม่ต้องบอก ใจเต้นแรงมากกกก… ตื่นเต้นสุด ๆ กลัวไปหมด โอ้ยยย….

เข้าข้อสอบ คนคุมสอบจะตรวจเอกสาร และบอกโต๊ะที่นั่งของเรา บนโต๊ะจะมีแทบเล็ตอันหนึ่ง คนละอันไว้ทำข้อสอบ
พอนั่งโต๊ะทุกคนแล้ว เค้าจะอธิบายการทำข้อสอบให้เรา พอสอบเสร็จแล้ว เราจะรุ้ผลสอบสอบทันที แล้วผุ้คุมก็บอกอีกว่า ห้ามลอกกันนะ เพราะถึงลอกก็เสียเปล่า เพราะทุกคนจะได้ข้อสอบไม่เหมือนกัน อะกึ๊ยย 555😳 แล้วคนคุมก็บอกขอให้ทุกคนโชคดี

เริ่มสอบไป10 นาที เห็นหลายคนสอบเสร็จแล้ว (เร็วจัง ) เดินไปหาคนคุมสอบที่หน้าห้องสอบด้วยความมั่นใจ และรอกระดาษที่ผุ้คุมจะปริ้นผลให้ทันที เพื่อดูผลว่าตกหรือผ่าน หลายคนกริ๊ดออกอย่างดีใจที่ผ่าน และหลายคนที่เดินคอตกออกไป แล้วคนคุมก็ปลอบว่า มาสอบใหม่ได้ ไปอ่านมาใหม่ให้แน่นๆ

เห็นเกือบทุกคนในห้องสอบ สอบเสร็จกันเกือบหมดแล้ว คงเหลือแต่เรากับ ผุ้หญิงอีก 2-3 คน เราเกือบเสร็จแล้วแหละ แต่มี 2 ข้อที่ไม่แน่ใจ เอาไงดี คงต้อง “Verb to เดา” แล้วแหละ เพราะเวลาสอบเหลือไม่มากแล้ว 😅 ใช่แล้ว 2 ข้อสุดท้ายเราต้องเดาเอาจ้าาา… แล้วเราก็กดเสร็จสิ้นการทำข้อสอบในแท้บเล็ต เพื่อส่งข้อสอบ เป็นไงเป็นกัน!!!! แงงง…😖

พอกดส่งข้อสอบแล้ว ใจนี้เต้นตุ้บๆ เดินไปหาผุ้คุมสอบ……ผุ้คุมมองหน้า และมองหน้าจอคอม ……ยินดีด้วย คุณสอบผ่าน !!! ผุ้คุมสอบพูดเบาๆ ยิ้มให้พร้อมยื่นกระดาษผลสอบมาให้ กริ๊ดดดด !!(ในใจ) ดีใจมากกก โอ้ยยย.. ยิ้มแก้มปริ พร้อมดูผลในกระดาษ เราทำผิดไป 2 ข้อ (ข้อที่เดานั่นแหละ 555) ถึงไม่ถูกหมดทุกข้อ แต่ก็ดีใจที่ผ่าน รีบส่งข้อความไปหาสามี พ่อแม่สามี และพ่อแม่ และญาติพี่น้องที่เมืองไทย โอ้ยต้องประกาศ ดีใจสุดๆๆๆ โล่งละทีนี้ ไม่ต้องเครียดอ่านหนังสือแล้ว

สามีกลับบ้านยิ้มหน้าบาน ดีใจที่เราสอบผ่าน เพราะเค้าบอก ขนาดคนเยอรมันยังสอบตกหลายรอบ เพราะข้อสอบยากจริงๆ แถมเรายังสอบภาษาเยอรมันด้วย เค้าดีใจกับเราจริงๆ😊

อยากให้กำลังใจคนที่กำลังอ่านหนังสือเตรียมตัวทำใบขับขี่อยุ่ ต้องขยันอ่านเยอะๆ ทำได้แน่นอน …เหมือนที่เค้าบอกว่า ” อย่ากลัวคนเก่ง แต่จงกลัวคนขยัน “

ถ้าเราทำได้ ทุกคนก็ต้องทำได้ เพราะเราไม่ใช่คนเก่งเลย แต่เราสุ้ไม่ถอยแค่นั่นเอง 


ยังไม่จบแค่นี้ เดี๋ยวมาอ่านต่อโพสหน้านะ ตอนชั่วโมงเรียนขับรถ คือหินสุดในการทำใบขับขี่ที่เยอรมันละ😢 ครูถึงกับส่ายหน้า แถมเกือบเกิดอุบัติเหตุบนทางด่วนด้วย น้ำตาตกก็คราวนี้ ร้องให้หนักมาก😭 เดี๋ยวติดตามตอนต่อไปนะ

อ่านต่อ ประสบการณ์ทำใบขับขี่ ตอนที่ 3 ตอน เรียนขับ ทำไมมันยากอย่างนี้ !!