เที่ยว 1 วันแบบง่ายๆ ช่วงเช้าแวะไปเที่ยว St.Beatus- Höhlen กัน และช่วงบ่ายก็แวะเที่ยวหมู่บ้านที่ชื่อว่า Iseltwald เพื่อไปตามรอย Series ชื่อดังกันค่ะ
ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่า เป็นประเทศที่อยู่ในฝันของใครหลายๆคน ที่อยากจะมาสัมผัสความสวยของที่นี่กัน และเราก็เป็นคนหนึ่งเหมือนกันที่ชอบประเทศนี้มากเหมือนกันค่ะ เพราะความที่เป็นประเทศที่มีธรรมชาติที่สวยงามสุดๆ การคมนาคมที่สะดวกสบาย ซึ่งตอบโจทย์ทุกอย่างสำหรับคนที่ชอบธรรมชาติ อย่างเช่นภูเขา น้ำตก ทะเลสาบ ดอกไม้ อย่างเราสองคนค่ะ เพราะที่นี่มีทุกอย่างให้เราจริงๆ
วันแรก
เราเดินทางมาจากเยอรมันโดยรถยนต์นะคะ ปกติแล้วก่อนที่เราจะเข้าเขตประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เราก็ต้องจะซื้อบัตรติดรถด้วยที่เรียกว่า Vignette ก่อนค่ะ ซึ่งใครที่ขับรถเข้าประเทศสวิตเซอร์แลนด์ต้องมีทุกคัน บัตรในปี 2022 นี้ราคาอยู่ที่ 40 ฟรังก์ แต่ดีอย่างตรงที่บัดนี้มีเวลาเราสามารถใช้ได้ 1 ปีเต็ม เพราะฉะนั้นถ้าในปีนี้เราจะเข้ามาเที่ยวประเทศสวิตเซอร์แลนด์อีก เราก็ไม่ต้องซื้อบัตรมาติดอีกรอบค่ะ
สถานที่ซื้อ vignette เราสามารถซื้อได้ที่ที่ปั๊มน้ำมัน ก่อนที่จะถึงจุดด่านตรวจค่ะ
พอได้บัตรติดรถแล้ว ก็ไปเที่ยวสวิสกันได้เลย ในรูปนี้คือตรงนี้คือด่านตรวจคนเข้าเมืองจากเยอรมันไปสวิตเซอร์แลนด์ค่ะ เราก็ขับผ่านไปได้เลยค่ะ ไม่มีการเรียกตรวจอะไรเลย
วิวระหว่างทาง สวยมากเลย
วิวตรงจุดชมวิว ข้างล่างนั้นคือทะเลสาบ Lungern ค่ะ
เราเดินทางมาจากเยอรมันสายแล้วค่ะ มาถึงที่พักที่ Interlaken West ก็ 15 น. กว่า ซึ่งเป็นเวลาที่เราจะต้องเช็คอินเข้าที่พักกันพอดี
ที่พักของเราจองผ่าน booking.com ค่ะ ห้องพักแห่งนี้ ก่อนที่เราจะมาถึงจะต้องติดต่อเจ้าของห้องพักก่อนนะ เพื่อที่เจ้าของห้องจะได้เอากุญแจมาให้เราค่ะ พอเราได้กุญแจแล้ว ก็เห็นว่าที่พักมีบัตร Gäste karte หรือ Visitor’s Card ใช้ด้วยฟรีค่ะ เราสองคนดีใจมาก เพราะบัตรนี้เราสามารถใช้รถบัสในเขตนี้ได้ฟรีหลายเมืองเลย สามารถอ่านรีวิวห้องพักของเราได้ใน Link นี้ได้เลยค่ะ
พอเราได้เข้าห้องพักแล้วจัดเก็บข้าวของเสร็จแล้วก็พากันออกลงไปเดินเล่นในเมือง Interlaken กัน Tourist Information ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พักมากนะเพื่อนถามเกี่ยวกับรายละเอียดกลับการเดินทางของเราค่ะว่าควรใช้ pass แบบไหนดีในการเดินทาง เจ้าหน้าที่ก็แนะนำดีมากว่าควรใช้ Jungfrau Travel Pass ดีที่สุด เพราะว่าจะประหยัดกว่าเยอะถ้าใช้ Pass อย่างอื่น เนื่องจากที่ที่เราอยากไปรวมอยู่ในพาสนี้หมดเลย ไม่ว่าจะขึ้นเขาและนั่งเรือในเขตนี้คือไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่มอีกค่ะ
ถ้าใครไม่แน่ใจว่าเราควรใช้ pass ไหนดีที่สุดสำหรับเราและคุ้มที่สุด อยากแนะนำว่า ลองเข้าไปขอคำปรึกษาใน Tourist Information ดูนะคะ ซึ่งเขาจะให้คำแนะนำที่ดีมากๆเลย
ที่อยู่ของ Tourist Information ใน Interlaken West : Marktgasse, Postfach 1, 3800 Interlaken, Schweiz
เมือง Interlaken เป็นเมืองที่เราประทับใจมากมีทุกอย่างที่เราต้องการ เมืองสวย สะอาด ร้านอาหารเยอะมีที่พักให้เลือกมากมาย ถ้าใครกำลังมองหาที่พักในการเที่ยวในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ก็แนะนำที่นี่เลยค่ะ ใครอยากดูรูปของเมืองนี้เมื่อตอนที่เรามาเที่ยวที่นี่เมื่อปีที่แล้ว ก็ลองเข้าไปดูในลิงค์ข้างล่างนี้ได้เลยค่ะ
บรรยากาศสวยๆในเมือง Interlaken
หลังจากเดินดูบรรยากาศตอนเย็นของเมือง Interlaken เสร็จแล้วก็พากันกลับค่ะ แล้วก็แวะเข้า Supermarket ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พักเพื่อหาของสดเพื่อไปทานอาหารทานกันในห้องเพราะในห้องเรามีครัวเล็กๆไว้ทานอาหารด้วย นี่คือวิธีการประหยัดอีกอย่างหนึ่งในการมาเที่ยวที่นี่คือการทำอาหารทานกันเองค่ะ และควรเลือกที่พักที่มีห้องครัวด้วยนะคะ
วันที่ 2
วันนี้เราตกลงกันว่าจะไปเที่ยวถ้ำ St.Beatus กันค่ะ แล้วช่วงบ่ายเราจะไป เมือง Iseltwald ไปตามรอยซีรี่ย์ชื่อดังกัน โดยที่เราจะใช้บัตรในการเดินทางวันนี้โดยรถบัส ซึ่งเราจะใช้บัตรฟรีที่ได้มาจากที่พักนั่นเองค่ะ
ในตอนแรกว่าจะนั่งรถบัสไปกัน แต่สามีอยากเดินไป เพราะสามีได้เช็คดูเส้นทางแล้วว่า ถ้าเราจะเดินไปกัน มันจะเป็นเลียบทะเลสาบไปตลอดเลยน่าจะเดินง่ายนะ และดูบรรยากาศดีมากเลย ด้วยความไม่แน่ใจ ในตอนเช้าเลยเข้าไปถาม Tourist Information อีกรอบหนึ่ง เจ้าหน้าที่ก็บอกว่า เดินไปได้ และทางสวยด้วย เดินง่าย แต่อาจจะมีทางที่ต้องเดินยากหน่อยก็คือ ช่วงก่อนถึงถ้ำนั่นเอง เราพากันมานั่งคิดดู แล้วเราก็จะเดินกันไปดีกว่า เพราะยังไงเราก็ไม่ได้รีบอยู่แล้ว
สุดท้ายแล้วเราสองคนเลยตัดสินใจที่จะเดินไปกันค่ะ แล้วตอนกลับ ค่อยนั่งรถบัสกลับกัน
การเดินทางของเราในวันนี้เราเริ่มเดินจากสถานีรถไฟ Interlaken West
แค่ช่วงเริ่มเดินกัน วิวข้างทางก็สวยแล้ว
เราสองคนเดินแบบไม่รีบนะคะ เราอยากหยุดตรงไหนก็หยุด เพราะอยากใช้เวลาดื่มด่ำกับบรรยากาศระหว่างทางให้มากที่สุดค่ะ 🙂
ตรงนี้มีที่นั่งที่ได้บรรยากาศดีมาก ซึ่งอยู่ริมทะเลสาบเลยพากันนั่งพักเพื่อทานอาหารเช้ากันตรงนี้ค่ะ
น้องมาดมอะไรจ๊ะ 5555
พอพักและทานอาหารเช้ากันเสร็จแล้ว ก็พากันเดินทางต่อค่ะ
จากจุดนี้ไปจะเป็นทางขึ้นเขาตลอดจนถึงน้ำตกและถ้ำ St. Beatus เลยค่ะเพราะฉะนั้นน่าจะเป็นจุดเดินที่ยากสุดในวันนี้
ถึงทางจะชัน และเราอาจจะมีการหยุดพักบ้างระหว่างทางขึ้น แต่ไม่นานก็ถึงค่ะ ยิ่งใกล้ถึงก็จะได้ยินเสียงน้ำตกใกล้ขึ้นเรื่อยๆทำให้รู้ว่าใกล้ถึงแล้ว
St. Beatus Caves
ถ้ำ St. Beatus ( ถ้ำบีทัส ) หรือ St.Beatus- Höhlen ในภาษาเยอรมัน บนทะเลสาบ Thun ใกล้ Interlaken เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอีกที่ในสวิตเซอร์แลนด์คะ ไม่ไกลจากเทือกเขา Niederhorn ประมาณ 1 กิโลเมตรเองค่ะ
St. Beatus มีอะไรน่าสนใจอีกบ้าง
- น้ำตกป่า สูงหลายชั้น
- พิพิธภัณฑ์
- ถ้ำของ St. Beatus และเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโลกของถ้ำ และทุกสิ่งที่เราอยากรู้รู้เกี่ยวกับถ้ำค่ะ
- มีร้านอาหาร Stein & Sein
เยี่ยมชมเซนต์ ถ้ำ St. Beatus เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่สุดในทะเลสาบทูน ถ้ำมีที่กว้างขวางประมาณ 14 กิโลเมตร ด้วยการแสดงแสงสีที่สร้างสรรค์และใหม่ซึ่งติดตั้งในปี 2019 การเดินทางประมาณหนึ่งกิโลเมตรผ่านถ้ำ เค้าบอกกันว่า หินงอกหินย้อยขนาดใหญ่ ห้องโถงกว้าง สวยงามมาก
ถ้ำ St. Beatus เปิดทุกวัน ตั้งแต่เดือนเมษายนถึงปลายเดือนตุลาคม และในช่วงหน้าหนาว นอกจากนั้นยังมีบริการในวันหยุดสุดสัปดาห์ (วันเสาร์และวันอาทิตย์) ด้วย!
ราคาค่าบัตรเข้าถ้ำ St. Beatus
ผู้ใหญ่ CHF 19.00 ต่อคน
เด็กอายุระหว่าง 6 ถึง 16 ปี ราคา CHF 11.00 (ต่ำกว่า 6 ขวบเข้าฟรีค่ะ)
บัตรครอบครัว CHF 49.00 ต่อตั๋วครอบครัว / รวมพ่อแม่หรือปู่ย่าตายาย (ผู้ใหญ่สูงสุด 2 คน) และลูก/หลานของตัวเองก็ได้ที่มีอายุระหว่าง 6 ถึง 16 ปี
น้ำตกสูง และสวยงามมากค่ะ
มีหลายชั้น เดินไปถ่ายรูปข้างล่างก็ได้ รถเข็นเด็กก็ขึ้นได้สบายๆค่ะ
พิพิธภัณฑ์ อยู่ระหว่างทางเดินลง ทั้งถ้ำและพิพิธภัณฑ์เราไม่ได้เข้าไปเยี่ยมชมเลยนะคะ เราสองคนเดินดูแค่ภายนอกเท่านั้นมบรรากาศรอบๆ ดูน้ำตกแค่นั้นค่ะ (ถ้าแค่เดินดูแวะเที่ยวน้ำตกอย่างเดียวไม่เสียเงิน)
เดินดูรอบๆถ่ายรูปกันจนพอใจแล้ว ก็พากันเดินลงเพื่อกลับกันค่ะ
ทางขึ้นค่ะ ถ้านั่งรถบัสมานะคะ
ป้ายรถเมย์สาย 21 นั่งกลับ Interlaken Ost กันค่ะ เพื่อที่จะไปเที่ยวเมือง Iseltwald กันต่อ
การเดินทางมา
การเดินทางมาที่นี่มาได้หลายวิธีนะคะ ถ้าขับรถดูรถยนต์ส่วนตัวมา ก็มีที่จอดรถอยู่ที่หน้าถ้ำเลยค่ะ แต่อาจจะไม่สะดวกเท่าไหร่นะ เพราะว่าที่จอดรถไม่ค่อยเยอะ เนื่องจากที่จอดรถอยู่ติดถนนใหญ่เลย ทำให้ถนนแถวนี้มีรถติดยาวเลย ถ้าเป็นช่วงหยุด ที่คนมาเที่ยวถ้ำกันเยอะๆ ก็อาจหาที่จอดรถยากค่ะ
ถ้าใครพักอยู่ที่ Interlaken West หรือ Ost เหมือนพวกเรา ก็สามารถนั่งรถเมล์สาย 21 มาได้เลยค่ะ ลงสถานี Beatushöhlen ป้ายรถเมล์มีอยู่ข้างหน้า เลยสะดวกมากๆ รถบัสจะใช้เวลาประมาณ 14 นาที
นั่งเรือ ก็สามารถขึ้นจากท่าเรือ Interlaken West แล้วลงท่าเรือชื่อ Beatushöhlen ได้เลยค่ะ
ที่อยู่
St. Beatushöhlen-Genossenschaft, Staatsstrasse 974, 3800 Sundlauenen, Schweiz
Iseltwald
การเดินทางไป Iseltwald จาก Interlaken Ost
จากถ้ำ St. Beatus มาที่ Interlaken Ost ด้วยรถบัสจะใช้เวลาประมาณ 25 นาทีซึ่งถือว่าไม่ไกลเลยค่ะ จากนั้นเราก็จะนั่งรถบัสไปที่เมือง Iseltwald กันต่อ
ถ้านั่งรถบัสมาจะต้องนั่งสาย 103 ที่ Interlaken Ost ค่ะ ใช้เวลานั่งมาประมาณ 25 นาทีลงสถานีสุดท้ายเลยคือสถานี Dorfplatz
ส่วนถ้าใครอยากนั่งเรือมาก็ได้ค่ะ โดยมาขึ้นเรือที่ท่าเรือ Interlaken Ost ลงท่าเรือ Iseltwald เรือมีออกวันละ 3 รอบ เราลงเรือรอบจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที
นั่งรถเมล์มาถึงสถานี แล้ว พอลงจากรถ ก็จะเจอป้ายนี้ เราก็เดินตรงไปเรื่อยๆเลยค่ะ ก็จะเจอท่าเรือ จุดที่เราอยากจะมาถ่ายรูปกันเลย
Iseltwald’ ท่าเรือริมทะเลสาบ Brienz
ไฮไลท์ของเมืองนี้ก็คงน่าจะเป็นท่าเรือนี่แหละค่ะ ที่เป็นจุดขายของนักท่องเที่ยว เพราะว่าซีรี่ย์ชื่อดังที่ชื่อว่า Crash landing on you คือมาถ่ายทำที่นี่นั่นเอง ทำให้ทุกคนอยากมาตามรอยกัน โดยเฉพาะตรงจุดท่าเรือ ที่ทุกคนจะต้องไปเช็คอินและถ่ายรูปเป็นที่ระลึก (ซึ่งรวมทั้งเราสองคนด้วย 🙂 โชคดีหน่อย ตอนที่เราไปมีนักท่องเที่ยวถือว่าไม่เยอะมาก แต่เราก็ไม่กล้าที่จะถ่ายรูปตรงท่าเรือนานเกินไป เพราะมีคนที่เราถ่ายรูปอีกอยู่ 2-3 คนที่ต่อจากเรา
พอถ่ายรูปตรงสะพานเสร็จแล้วเห็นว่ายังพอมีเวลา ก่อนที่รถบัสจะมา เลยจะพากันเดินรอบๆหมู่บ้านกันค่ะ เพราะฉะนั้นถ้าใครจะมาที่นี่ควรดูเวลากลับด้วยนะคะ เราจะได้เผื่อเวลาด้วย ถ้ามีเวลาเราก็สามารถที่จะเดินดูวิวรอบเมืองได้
บรรยากาศรอบๆเมือง Iseltwald ช่วงตอนเย็นแล้วนะคะ บรรยากาศดีมากเลย
วันนี้เป็นวันประทับใจมากๆ นอกจากในวันนี้เราได้ไปเที่ยวชมที่สวยๆทั้ง 2 ที่เลย ไม่ว่าจะเป็นถ้ำ St. Beatus หรือเมืองเล็กๆที่สวยที่ชื่อว่า Iseltwald ก็ตาม เป็นการใช้เวลาใน 1 วันได้คุ้มมาก แถมเดินทางฟรีด้วย เพราะเราใช้บัตรที่ชื่อว่า Visitor´s Card ของเมือง Interlaken ที่เราได้มาฟรีจากที่พักของเรานั้นเองค่ะ