เยอรมนีเป็นประเทศที่มีระบบขนส่งสาธารณะที่ทันสมัยและครอบคลุม ทำให้การเดินทางภายในประเทศเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปมุมไหนของเยอรมันค่ะ มาดูซิว่าระบบขนส่งสาธารณะมีอะไรบ้าง
ระบบขนส่งสาธารณะหลักๆ ในเยอรมนี ได้แก่
รถไฟ (Bahn): มี 4 แบบด้วยกัน
- ICE (Intercity-Express): รถไฟความเร็วสูง เชื่อมต่อเมืองใหญ่ๆ ทั่วประเทศ
- IC (Intercity): รถไฟความเร็วปานกลาง วิ่งระหว่างเมืองสำคัญๆ
- Regionalbahn (RB): รถไฟท้องถิ่น เชื่อมต่อระหว่างเมืองและหมู่บ้าน
- S-Bahn: รถไฟชานเมือง วิ่งรอบๆ เมืองใหญ่ๆ เช่น เบอร์ลิน ฮัมบูร์ก และมิวนิค
รถราง (Straßenbahn): พบได้ในหลายเมืองใหญ่ เช่น เบอร์ลิน ฮัมบูร์ก และวิ่งบนรางบนถนน
รถบัส: มีทั้งรถบัสประจำทางในเมืองและรถบัสระหว่างเมือง
รถไฟใต้ดิน (U-Bahn): พบได้ในเมืองใหญ่ๆ เช่น เบอร์ลิน ฮัมบูร์ก และมิวนิค
ข้อดีของการใช้ระบบขนส่งสาธารณะในเยอรมนี
- สะดวกสบาย: มีตารางเดินรถที่แน่นอนและตรงต่อเวลา
- ครอบคลุม: เชื่อมต่อทุกพื้นที่ในประเทศ
- สะอาดและปลอดภัย: รถไฟและรถรางส่วนใหญ่สะอาดและมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี
- เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: ช่วยลดการปล่อยมลพิษ
- มีตั๋วหลากหลายประเภท: ทั้งตั๋วเที่ยวเดียว ตั๋ววัน ตั๋วรายสัปดาห์ และตั๋วรายเดือน
วิธีการซื้อตั๋ว
- ตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ: สามารถพบได้ตามสถานีรถไฟและป้ายรถเมล์
- เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋ว: มีให้บริการที่สถานีรถไฟขนาดใหญ่
- แอปพลิเคชัน: หลายบริษัทขนส่งมีแอปพลิเคชันสำหรับซื้อตั๋วผ่านสมาร์ทโฟน
เคล็ดลับในการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ
- วางแผนการเดินทาง: ตรวจสอบตารางเดินรถก่อนออกเดินทาง
- ซื้อตั๋วที่ถูกต้อง: เลือกประเภทของตั๋วที่เหมาะสมกับการเดินทางของคุณ
- ปั๊มตั๋วก่อนขึ้นรถ: ตั๋วบางประเภทต้องปั๊มก่อนขึ้นรถ
- สังเกตป้ายบอกทาง: บนรถไฟและรถรางจะมีป้ายบอกทางแสดงจุดจอดต่างๆ
- เตรียมเงินทอน: หากซื้อตั๋วบนรถ ควรเตรียมเงินทอนให้พร้อม
ข้อควรระวัง
- ตรวจสอบโซน: ตั๋วบางประเภทมีโซนจำกัด ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าตั๋วที่ซื้อครอบคลุมโซนที่ต้องการเดินทาง
- ระวังการตรวจตั๋ว: มีเจ้าหน้าที่ตรวจตั๋วอยู่เป็นประจำ หากไม่มีตั๋วจะต้องเสียค่าปรับ
รถไฟความเร็วสูง ICE
ICE ย่อมาจาก Intercity-Express เป็นรถไฟความเร็วสูงที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศเยอรมนีและยุโรปตะวันตกเลยก็ว่าได้ รถไฟ ICE นั้นมีชื่อเสียงเรื่องความเร็วสูงและความสะดวกสบายในการเดินทาง ทำให้เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางระหว่างเมืองใหญ่ๆ ในเยอรมนีและประเทศใกล้เคียง
ทำไมต้องเลือกเดินทางด้วยรถไฟ ICE?
- ความเร็วสูง: รถไฟ ICE วิ่งด้วยความเร็วสูง ทำให้คุณเดินทางถึงจุดหมายปลายทางได้อย่างรวดเร็ว
- ความสะดวกสบาย: รถไฟ ICE มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น ที่นั่งกว้างขวาง ปลั๊กไฟ Wi-Fi และห้องน้ำที่สะอาด
- เชื่อมต่อทั่วถึง: รถไฟ ICE เชื่อมต่อเมืองใหญ่ๆ หลายแห่งในเยอรมนีและยุโรป ทำให้การเดินทางไปยังประเทศต่างๆ สะดวกสบายมากขึ้น
- ตรงต่อเวลา: รถไฟ ICE มีตารางเวลาที่แน่นอนและตรงต่อเวลา ทำให้คุณวางแผนการเดินทางได้อย่างแม่นยำ
ข้อแตกต่างระหว่างรถไฟ ICE กับรถไฟประเภทอื่นๆ
- ความเร็ว: รถไฟ ICE วิ่งเร็วกว่ารถไฟประเภทอื่นๆ เช่น Regionalbahn หรือ Intercity
- ระยะทาง: รถไฟ ICE มักวิ่งระหว่างเมืองใหญ่ๆ ในระยะทางไกล
- ความถี่: รถไฟ ICE วิ่งบ่อยกว่ารถไฟประเภทอื่นๆ โดยเฉพาะในเส้นทางหลัก
สิ่งที่ควรรู้ก่อนเดินทางด้วยรถไฟ ICE
- การจองตั๋ว: สามารถจองตั๋วรถไฟ ICE ได้ล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์ของ Deutsche Bahn หรือแอปพลิเคชัน
- ประเภทของตั๋ว: มีตั๋วหลายประเภทให้เลือก เช่น ตั๋วชั้นหนึ่ง ตั๋วชั้นสอง และตั๋วแบบไปกลับ
- สิ่งอำนวยความสะดวก: สิ่งอำนวยความสะดวกบนรถไฟ ICE อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับรุ่นของรถไฟ
- สถานี: รถไฟ ICE จะจอดที่สถานีหลักของแต่ละเมือง
รถไฟ InterCity (IC)
IC ย่อมาจาก InterCity เป็นรถไฟประเภทหนึ่งที่วิ่งระหว่างเมืองใหญ่ๆ ในเยอรมนีและบางส่วนของยุโรปตะวันตก รถไฟ IC นั้นเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเดินทางระหว่างเมืองที่ไม่ไกลมากนัก และต้องการความสะดวกสบายในราคาที่ประหยัดกว่ารถไฟความเร็วสูงอย่าง ICE
รถไฟ IC แตกต่างจากรถไฟ ICE อย่างไร?
- ความเร็ว: รถไฟ IC วิ่งช้ากว่ารถไฟ ICE เล็กน้อย ทำให้จอดรับส่งผู้โดยสารได้บ่อยขึ้น
- เส้นทาง: รถไฟ IC วิ่งในเส้นทางที่หลากหลายกว่ารถไฟ ICE อาจมีการจอดตามสถานีขนาดกลางบ้าง
- ราคา: โดยทั่วไปแล้ว รถไฟ IC จะมีราคาถูกกว่ารถไฟ ICE
- สิ่งอำนวยความสะดวก: รถไฟ IC ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น ที่นั่งกว้างขวาง ปลั๊กไฟ และห้องน้ำ แต่ระดับความสะดวกสบายอาจจะไม่เท่ากับรถไฟ ICE
เหตุผลที่ควรเลือกเดินทางด้วยรถไฟ IC
- ราคาประหยัด: สำหรับการเดินทางระยะกลางๆ รถไฟ IC เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่า
- จอดสถานีเยอะ: ทำให้สามารถเดินทางไปยังเมืองเล็กๆ หรือสถานที่ท่องเที่ยวที่รถไฟ ICE ไม่จอดได้
- ความสะดวกสบาย: รถไฟ IC ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เพียงพอสำหรับการเดินทาง
สิ่งที่ควรรู้ก่อนเดินทางด้วยรถไฟ IC
- การจองตั๋ว: สามารถจองตั๋วรถไฟ IC ได้ล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์ของ Deutsche Bahn หรือแอปพลิเคชัน
- ประเภทของตั๋ว: มีตั๋วหลายประเภทให้เลือก เช่น ตั๋วชั้นหนึ่ง ตั๋วชั้นสอง และตั๋วแบบไปกลับ
- สิ่งอำนวยความสะดวก: สิ่งอำนวยความสะดวกบนรถไฟ IC อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับรุ่นของรถไฟ
- สถานี: รถไฟ IC จะจอดตามสถานีหลักและสถานีขนาดกลาง
Regional Express (RE)
RE ย่อมาจาก Regional Express เป็นรถไฟด่วนวิ่งระหว่างภูมิภาค โดยทั่วไปแล้ว รถไฟ RE จะวิ่งระหว่างเมืองต่างๆ ภายในรัฐ หรือระหว่างรัฐที่อยู่ใกล้กัน โดยจะหยุดรับส่งผู้โดยสารที่สถานีสำคัญๆ เท่านั้น ทำให้การเดินทางรวดเร็วขึ้นเมื่อเทียบกับรถไฟท้องถิ่นทั่วไป
รถไฟ RE แตกต่างจากรถไฟประเภทอื่นอย่างไร?
- ความเร็ว: รถไฟ RE จะวิ่งเร็วกว่ารถไฟท้องถิ่น (Regionalbahn หรือ RB) แต่จะช้ากว่ารถไฟความเร็วสูงอย่าง ICE (Intercity Express)
- เส้นทาง: รถไฟ RE มักวิ่งตามเส้นทางที่เชื่อมต่อระหว่างเมืองสำคัญๆ
- ราคา: ราคาตั๋วของรถไฟ RE จะถูกกว่ารถไฟ ICE แต่แพงกว่ารถไฟ RB
- ความสะดวกสบาย: สิ่งอำนวยความสะดวกในรถไฟ RE จะค่อนข้างครบครัน มีที่นั่งกว้างขวาง และมักจะมีช่องเสียบปลั๊กให้ชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
เหมาะกับใคร?
- นักท่องเที่ยว: หากคุณต้องการเดินทางระหว่างเมืองต่างๆ ในเยอรมนี และต้องการความสะดวกสบายในราคาที่ไม่แพงมาก รถไฟ RE เป็นตัวเลือกที่ดี
- ผู้ที่อาศัยอยู่ในเยอรมนี: หากคุณต้องเดินทางไปทำงานหรือทำธุระในเมืองใกล้เคียง รถไฟ RE ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ
Regionalbahn (RB) รถไฟท้องถิ่น
รถไฟ Regionalbahn (RB) หรือที่เราเรียกกันสั้นๆ ว่า รถไฟท้องถิ่น นั้น เป็นรถไฟที่ให้บริการในพื้นที่เฉพาะเจาะจง เช่น ระหว่างเมืองเล็กๆ หมู่บ้าน หรือเชื่อมระหว่างเมืองใหญ่กับเมืองรองในเยอรมนี รถไฟ RB นี้เปรียบเสมือนเส้นเลือดฝอยที่เชื่อมโยงทุกพื้นที่เข้าด้วยกัน ทำให้การเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศเป็นไปอย่างสะดวกสบาย
ทำไมต้องเลือกเดินทางด้วยรถไฟ RB?
- สัมผัสวิถีชีวิตท้องถิ่น: รถไฟ RB จะจอดตามสถานีเล็กๆ ที่รถไฟความเร็วสูงอย่าง ICE ไม่จอด ทำให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศของชุมชนท้องถิ่น
- ราคาประหยัด: ค่าโดยสารรถไฟ RB มักจะถูกกว่ารถไฟประเภทอื่นๆ
- ยืดหยุ่น: รถไฟ RB วิ่งบ่อย ทำให้คุณมีตัวเลือกในการเดินทางที่หลากหลาย
- เชื่อมต่อกับระบบขนส่งอื่นๆ: รถไฟ RB มักจะเชื่อมต่อกับระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ เช่น รถราง รถบัส หรือรถไฟใต้ดิน ทำให้การเดินทางของคุณสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
สิ่งที่ควรรู้ก่อนเดินทางด้วยรถไฟ RB
- การจองตั๋ว: สามารถจองตั๋วรถไฟ RB ได้ล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์ของ Deutsche Bahn หรือแอปพลิเคชัน
- ประเภทของตั๋ว: มีตั๋วหลายประเภทให้เลือก เช่น ตั๋วเที่ยวเดียว ตั๋ววัน และตั๋วรายสัปดาห์
- สิ่งอำนวยความสะดวก: รถไฟ RB อาจไม่มีบริการ Wi-Fi หรือปลั๊กไฟ
- สถานี: รถไฟ RB จะจอดตามสถานีเล็กๆ และสถานีกลาง
S-Bahn: รถไฟที่เชื่อมโยงเมืองและชานเมือง
S-Bahn หรือ Stadtbahn ในภาษาเยอรมัน แปลตรงตัวว่า “รถไฟเมือง” เป็นระบบขนส่งมวลชนที่ออกแบบมาเพื่อเชื่อมโยงระหว่างใจกลางเมืองและชานเมืองต่างๆ ในเมืองใหญ่ๆ ของเยอรมนีและออสเตรียค่ะ
ลักษณะเด่นของ S-Bahn:
- ผสมผสานระหว่างรถไฟในเมืองและรถไฟชานเมือง: ในใจกลางเมือง S-Bahn จะวิ่งถี่และมีระยะห่างระหว่างสถานีใกล้เคียงกัน คล้ายกับรถไฟใต้ดิน แต่เมื่อออกไปสู่ชานเมือง ระยะห่างระหว่างสถานีจะมากขึ้นคล้ายรถไฟชานเมืองทั่วไป
- ครอบคลุมพื้นที่กว้าง: S-Bahn ช่วยให้ผู้โดยสารสามารถเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางต่างๆ ในเมืองและชานเมืองได้อย่างสะดวกสบาย
- ความถี่ในการเดินรถสูง: โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วน S-Bahn จะวิ่งบ่อยมาก ทำให้คุณไม่ต้องรอรถนาน
- เชื่อมต่อกับระบบขนส่งอื่นๆ: S-Bahn มักจะเชื่อมต่อกับระบบขนส่งอื่นๆ เช่น รถไฟใต้ดิน รถราง และรถบัส ทำให้การเดินทางของคุณสะดวกสบายยิ่งขึ้น
S-Bahn แตกต่างจากรถไฟประเภทอื่นๆ อย่างไร?
- Regionalbahn (RB): S-Bahn มักจะวิ่งเร็วกว่าและมีเส้นทางที่ครอบคลุมมากกว่า RB ซึ่งมักจะเน้นการเชื่อมต่อระหว่างเมืองเล็กๆ และหมู่บ้าน
- Intercity (IC): S-Bahn วิ่งในระยะทางที่สั้นกว่า IC ซึ่งเป็นรถไฟระหว่างเมือง
- ICE (Intercity-Express): S-Bahn วิ่งช้ากว่า ICE และมีราคาถูกกว่า
รถราง (Straßenbahn)
รถราง (Straßenbahn) หรือที่บางครั้งเรียกว่า Tram นั้น เป็นระบบขนส่งสาธารณะที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหลายเมืองของเยอรมนี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองเก่าแก่ รถรางเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองเหล่านั้นเลยก็ว่าได้
ลักษณะเด่นของรถราง:
- วิ่งบนรางบนถนน: รถรางจะวิ่งบนรางที่ปูอยู่บนถนน ทำให้สามารถเลี้ยวและหยุดรถได้ตามจุดจอดต่างๆ บนถนน
- เชื่อมต่อกับสถานที่สำคัญ: เส้นทางรถรางมักจะผ่านสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ตลาด และย่านธุรกิจ ทำให้การเดินทางสะดวกสบาย
- บรรยากาศแบบคลาสสิก: รถรางหลายคันยังคงรักษาดีไซน์แบบดั้งเดิม ทำให้การเดินทางด้วยรถรางเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจ
- เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: รถรางเป็นพาหนะที่ปล่อยมลพิษน้อยกว่ารถยนต์ ทำให้เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการเดินทางในเมือง
ทำไมต้องเลือกเดินทางด้วยรถราง?
- ชมวิวเมือง: การนั่งรถรางจะทำให้คุณได้ชมวิวเมืองในมุมที่แตกต่างออกไป
- หลีกเลี่ยงการจราจร: รถรางมีเลนพิเศษ ทำให้ไม่ติดขัดกับรถยนต์
- ประหยัดเวลา: รถรางมักจะมีเลนพิเศษ ทำให้เดินทางได้รวดเร็วกว่าการเดินทางด้วยรถยนต์
- เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: ช่วยลดมลพิษทางอากาศ
เมืองที่มีรถรางที่น่าสนใจในเยอรมนี
- เบอร์ลิน: มีระบบรถรางที่ครอบคลุมทั่วเมือง
- มิวนิค: รถรางเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตของชาวมิวนิค
- ไลพ์ซิก: มีรถรางที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ
- แฟรงค์เฟิร์ต: รถรางเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการเดินทางในเมือง
รถบัสในเยอรมัน
การเดินทางด้วยรถบัสในเยอรมันเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ทั้งสำหรับคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว เพราะเป็นระบบขนส่งสาธารณะที่ครอบคลุมทั่วถึง สะอาด และตรงต่อเวลา รถบัสในเยอรมันมีหลากหลายเส้นทาง เชื่อมต่อกับสถานที่สำคัญต่างๆ ทั้งในเมืองและระหว่างเมือง ทำให้การเดินทางไปไหนมาไหนเป็นเรื่องง่ายดาย
ข้อดีของการเดินทางด้วยรถบัสในเยอรมัน
- สะดวกสบาย: รถบัสส่วนใหญ่มีที่นั่งนุ่มสบาย พร้อมเครื่องปรับอากาศ และบางสายยังมีบริการ Wi-Fi ฟรี
- ตรงต่อเวลา: รถบัสในเยอรมันมีตารางเวลาที่แน่นอน สามารถวางแผนการเดินทางได้อย่างแม่นยำ
- ครอบคลุม: รถบัสวิ่งผ่านสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ สถานีรถไฟ และจุดเชื่อมต่อกับระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ
- เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: การเดินทางด้วยรถบัสเป็นทางเลือกที่ช่วยลดมลพิษและการใช้พลังงาน
รถไฟใต้ดิน (U-Bahn)
รถไฟใต้ดิน (U-Bahn) เป็นอีกหนึ่งระบบขนส่งมวลชนที่สำคัญและได้รับความนิยมอย่างมากในเยอรมัน โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ๆ เช่น เบอร์ลิน, มิวนิก, ฮัมบูร์ก และแฟรงค์เฟิร์ต รถไฟใต้ดินเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเดินทางภายในเมือง เพราะรวดเร็ว สะอาด และครอบคลุมพื้นที่ได้กว้างขวางค่ะ
ข้อดีของการเดินทางด้วยรถไฟใต้ดิน
- รวดเร็ว: รถไฟใต้ดินไม่ต้องติดไฟแดง ทำให้เดินทางถึงจุดหมายปลายทางได้รวดเร็วกว่ารถบัส
- สะดวกสบาย: รถไฟใต้ดินส่วนใหญ่มีเครื่องปรับอากาศ และมีที่นั่งให้เพียงพอ
- ปลอดภัย: ระบบรักษาความปลอดภัยดีเยี่ยม ทำให้คุณสามารถเดินทางได้อย่างอุ่นใจ
- ครอบคลุม: เชื่อมต่อกับสถานที่สำคัญต่างๆ ทั้งสถานีรถไฟ, สถานีขนส่ง และแหล่งช้อปปิ้ง
ข้อมูลที่ควรรู้ก่อนขึ้นรถไฟใต้ดิน
- ตั๋ว: สามารถซื้อตั๋วได้จากตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติที่สถานี หรือบางครั้งสามารถซื้อตั๋วได้จากเคาน์เตอร์บริการ
- แผนที่: ควรศึกษาแผนที่รถไฟใต้ดินก่อนเดินทาง เพื่อวางแผนเส้นทางได้อย่างถูกต้อง
- การขึ้นรถ: รอให้ผู้โดยสารที่ลงรถก่อน แล้วจึงค่อยขึ้นรถ
- การลงรถ: กดปุ่มขอจอดล่วงหน้าก่อนถึงสถานีที่ต้องการลง
ขอบคุณข้อมูลจาก www.polrail.com และ https://int.bahn.de/en