Oeschinensee

Oeschinensee ทะเลสาบสวยที่สุดในเขต Berner Oberland สวิตเซอร์แลนด์

Europa เที่ยวนอกเยอรมัน

ตื่นเต้นอีกแล้วค่ะทุกคน เพราะว่าเราจะไปเที่ยวทะเลสาบสวยที่ที่สุดในเขต Berner Oberland ประเทศสวิตเซอร์แลนด์เลยค่ะ นั่นคือทะเลสาบ Oeschinen นั่นเอง เป็นทะเลสาบที่เราอยากมาเห็นมานานมากแล้วค่ะ และจะบอกกับตัวเองว่าสักวันฉันต้องมาเห็นด้วยตัวเองสักครั้ง

เวลาผ่านไปไวมาก เราเที่ยวที่สวิตเซอร์แลนด์เป็นวันที่ 8 แล้วนะคะ เป็นทริปขับรถเที่ยวกันเองจากเยอรมัน 14 วันเต็มๆ สามารถดูแพลนการเที่ยวขอเราสองคนได้จากลิงค์ตรงนี้เลยค่ะ Plan ทริปขับรถเที่ยวด้วยตัวเอง ที่สวิตเซอร์แลนด์ 14 วัน  และรีวิวที่พักในทริปนี้ทั้หมด รีวิวห้องพัก Airbnb 4 ที่ 4 สไตล์ ที่สวิตเซอร์แลนด์

วันนี้เราจะไปเที่ยวทะเลสาบ Oeschinen กันค่ะ เป็นทะเลสาบที่มีชื่อเสียงในเขตนี้ เราสองคนไม่ต้องตื่นเช้ามากค่ะวันนี้ เพราะเรารู้ว่าสถานีของกระเช้าที่เราจะขึ้นไปทะเลสาบกันนั้นอยู่ไม่ไกลจากเมือง Kandersteg มากนัก แต่เพื่อเป็นการไม่ให้เสียเวลาเราก็เลยเอาจักรยานที่เรานำมาด้วยปั่นไปกันดีกว่าค่ะ

พอเราปั่นจักรยานมาถึงสถานีขึ้นกระเช้าเกือบประมาณ 09:00 น กว่าๆ เห็นนักท่องเที่ยวและนักเดินเขา เต็มไปหมดเลย ทุกคนกำลังยืนต่อคิวเพื่อซื้อตั๋วกัน ตั๋วนี้สามารถซื้อได้จากตู้อัตโนมัติ หรือไม่ซื้อจากเคาน์เตอร์ บางคนก็อาจจะจองออนไลน์มาแล้ว ซึ่งก็สามารถซื้อได้หลายทางแล้วแต่ความสะดวกของเราเลย แต่เราสองคนเลือกที่จะซื้อกับเคาน์เตอร์ค่ะ เนื่องจากเรามีบัตรลด 25% จากที่พักมาด้วยเราเลยอยากใช้ประโยชน์จากส่วนนี้ ในการลดราคาบัตรขึ้นกระเช้านั่นเองค่ะ

ราคาบัตรขึ้นกระเช้า

ราคาปกติ ผู้ใหญ่ 30 ฟรังก์ และเด็ก 6-16 ปี ราคา 15 ฟรังก์ (ถ้าใครมีบัตรลดราคา Swiss Travel Pass หรือบัตร Erlebnis card ก็จะลดได้ 50 % )

ดูราคา Gondelbahn อัปเดตได้ที่ https://shop.e-guma.ch/oeschinensee/de/tickets/

ตั๋วเราได้ตั๋วแล้วเราก็พากันขึ้นกระเช้าเลยค่ะดูเหมือนคนเยอะ แต่ก็รอคิวไม่นานเท่าไหร่ค่ะ พอขึ้นมาถึงข้างบนแล้วก็เห็นมีร้านอาหารอยู่ข้างฝั่งขวามือ และฝั่งซ้ายคือทางไปเพื่อที่จะไปนั่งรถ Rodelbahn หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า Mountian Coaster แต่เราอยากไปที่ทะเลสาบกันก่อน แล้วจะมาเล่นกันก่อนกลับในช่วงบ่ายกันดีกว่าค่ะ

พอออกจากสถานีก็จะเห็นป้ายเพื่อที่จะเดินไปทะเลสาบใครไม่อยากเดินก็มีรถบัสคันเล็กๆเพื่อไปที่ทะเลสาบเหมือนกันนะคะ แต่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มคือ ผู้ใหญ่ 8 ฟรังก์ เด็ก 5  ฟรังก์ รถจะวิ่งทุกครึ่งชั่วโมงหรือเวลาที่รถเต็ม (ราคาขาเดียว)

แต่เราไม่ได้นั่งรถนะคะ เราคิดว่าเราเดินไปดีกว่า เพราะจากที่ดูแล้วก็ไม่ไกลเท่าไหร่สามารถเดินไปได้ค่ะ ทางเดินก็มีหลายทางให้เราเลือกว่าเราจะเดินไปทางไหน ทางที่ใกล้สุดคือเส้นทางหมายเลข 4 ที่นักท่องเที่ยวจะนิยมเดินกัน

เลือกเส้นทางหมายเลข 5

แต่เราเลือกเส้นทางหมายเลข 5 จะใช้เวลาเดิน 35 นาทีถึงทะเลสาบค่ะ ทางเดินนั้นจะเป็นทางลูกกรวดสลับกับดินไปเรื่อยๆค่ะ ทางเดินถือว่าไม่ลำบากนะ (ถ้าเดินเส้นทางหมายเลข 4 จะใช้เวลาเดิน 25 นาทีถึงทะเลสาบ (ทางจะใกล้กว่า)

เลือกเส้นทางหมายเลข 5 ใกล้ถึงแล้วค่ะ

พอมาถึงก็ถึงจุดที่เห็นคนเยอะๆพากันถ่ายรูปตรงมุมที่นั่ง มองเห็นแม่น้ำในทะเลสาบเป็นสีเขียวมรกตสวยงาม ว้าวสุดๆ เราสองคนรีบยกกล้องมาถ่ายรูป ถ่ายรูปกันจุกใจแล้วก็พากันเดินลงไปที่ทะเลสาบ 

น้ำทะเลน้ำของทะเลสาบสีสวยมากจนทำให้สามีอยากเล่นน้ำสุดๆ ตอนแรกก็ไม่แน่ใจว่าทะเลสาบนี้เราสามารถเล่นน้ำได้หรือเปล่า แต่ก็เห็นคนเล่นเยอะเลยรอบทะเลสาบด้วยค่ะ เลยทำให้รู้ว่าที่นี่ก็เล่นน้ำได้เลยพากันหามุมที่เล่นน้ำกัน

 พากันเดินลงไปที่ทะเลสาบ
เห็นฝรั่งเล่นน้ำอยู่ก็ทำให้รู้ว่าที่นี่เราเล่นน้ำได้

เดินไปเดินมาก็มาตรงทางเดินหมายเลข 6 ซึ่งตรงนั้นคนจะเล่นน้ำกันน้อยหน่อย ดูเงียบสงบดี แต่ทางเดินก็ดูน่ากลัวเหมือนกันนะต้องเดินอย่างระวังเพราะแคบและมีมุมที่เราจะต้องไต่เขาและต้องปีนด้วย

เราจะไปเล่นน้ำตรงโน้นกันค่ะ
 ทางเดินอาจจะแคบหน่อยแต่ก็มีที่ให้เราจับเพื่อความปลอดภัย

พอมาถึงจุดสุดท้ายของเดินหมายเลข 6 หลังจากที่เราเดินมาอย่างทุลักทุเล ปรากฏว่าตรงนี้เป็นถ้ำค่ะ แต่ไม่ใช่ถ้ำลึกมากนะแค่เป็นโขดหินที่ยื่นออกไปแค่นั้นเองและมีน้ำตกอยู่ตรงข้างหน้าโขดหินด้วย สิ่งที่เราแอบตกใจนิดนึงคือมีคนอยู่ตรงนี้ด้วย เป็นลุงฝรั่งคนหนึ่งอายุประมาณ 60 กว่า ซึ่งมองเห็นได้ว่าเขากินนอนอยู่ตรงนี้ เพราะเขามีอุปกรณ์ทำอาหารและถุงนอนด้วยนะ อย่างไรก็ดีเราคิดว่าเราคงไม่ได้มารบกวนเขาหรอกนะ เพราะว่าตรงนี้ถือว่าเป็นที่สาธารณะไม่ใช่เป็นที่ส่วนตัว แต่อย่างไรก็ดีเราก็ทักทายเขา แล้วก็ขออนุญาตเขาเล่นน้ำแถวๆนี้เขาก็บอกเล่นเลยไม่เป็นไร 

ในรูปจะเห็นผู้ชาย 3 คนที่กำลังจะข้ามไปนั่นคือที่ที่เราข้ามไปเมื่อกี้ค่ะและมุมขวามือรูปจะเป็นถ้ำเล็กๆ ที่พวกเราเล่นน้ำ

ตอนแรกเรานึกว่าเขาเป็นคนไร้บ้าน แต่ที่จริงไม่ใช่ค่ะ ระหว่างที่พวกเราเล่นน้ำไปหยุดพักไป ก็เลยได้มีการพูดคุยกับลุง เลยทำให้รู้ว่าเขาอยู่ในเมือง Kandersteg นี่เอง แต่เนื่อจากเป็นคนสันโดษ เขาบอกว่า วันไหนอากาศดีๆหน้าร้อน เขาจะมีถุงนอนและอุปกรณ์สำหรับที่เขาสามารถไปแคมป์ปิ้งตรงไหนก็ได้ที่เขาต้องการ ที่คิดว่าบรรยากาศดีและสงบเงียบ และตรงจุดนี้คือจุดโปรดของเขาค่ะ เขาบอกว่าช่วงเย็นๆจะสงบมากหลังจากที่นักท่องเที่ยวกลับไปหมดแล้ว โดยเฉพาะหน้าร้อน เขาจะชอบแวะมานอนตรงนี้บ่อยๆ

มุมหน้าถ้ำนี้มีน้ำตกด้วย

เราเล่นน้ำอยู่แถวนี้กันหลายชั่วโมงเลยค่ะ แถวนี้จะไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวเยอะเพราะว่าเข้ามายาก น้ำที่นี่เย็นสดชื่นมากๆค่ะ

มีน้ำตกอยู่ไม่ไกล

เราเล่นน้ำกันจนถึงบ่ายเกือบ 15:00 น  ก็เห็นว่าเราน่าจะกลับกันได้แล้วเพราะว่าอยากจะแวะลงขับรถกันด้วย จะสังเกตเห็นว่าช่วงบ่ายนักท่องเที่ยวมาเยอะมากคนเล่นน้ำเต็มไปหมด คึกคักกว่าช่วงเช้ามากเลย และช่วงบ่ายก็ร้อนกว่ามากๆ เลยพากันชวนแวะทานเครื่องดื่มเย็นๆกันก่อนกลับ ในร้านอาหารที่ตั้งอยู่ใกล้ๆกับทะเลสาบกันค่ะ 

จุดขึ้นรถบัสกลับถ้าใครไม่อยากเดิน จุดขึ้นรถบัสนี้ก็อยู่ไม่ไกลจากร้านอาหารเท่าไหร่ค่ะ

ตอนกลับเราพากันเดินกลับตรงทางเดินหมายเลข 4 กัน เพราะจะเป็นทางที่สั้นกว่า ที่สถานีกระเช้าเราก็แวะไปเล่นขับรถ Mountain Coaster กัน 

ราคาเล่น Mountain Coaster 

ก่อน 11:30 น 

ผู้ใหญ่ ราคารอบละ 4  และแบบเหมา 5 รอบราคา 18 เด็ก ราคารอบละ 3 และแบบเหมา 5 รอบ 13

หลัง 11:30 น  

ผู้ใหญ่ราคารอบละ 6  และแบบเหมา 5 รอบราคา 27 เด็กราคารอบละ 5 และแบบเหมา 5 รอบราคา 22 

สามารถเช็คราคาอัพเดทอีกครั้งได้ที่ https://www.oeschinensee.ch/rodeln/

ข้อควรระวังและวิธีการขับ

ในระหว่างที่ขับเขาห้ามใช้โทรศัพท์ถ่ายรูปหรือถ่ายวีดีโอเพราะเพื่อความปลอดภัยของเรา การขับก็ง่ายๆค่ะ เนื่องจากเป็นทางไล่ลงอยู่แล้วถ้าอยากเร็วๆก็มีคันโยกอยู่ตรงระหว่างขา เราก็แค่โยกไปข้างหน้ามันก็จะเพิ่มความเร็วให้แล้วค่ะถ้าใครชอบเร็วๆก็โยกไปข้างหน้าแล้วค้างไว้แค่นั้นเอง สนุกดี สามีชอบมาก ขอเล่นอีกรอบ เป็นรอบที่ 2  ก่อนกลับค่ะ

วันนี้เป็นวันที่เราชอบมากๆอีกวัน เพราะว่าได้เล่นน้ำ และพักผ่อน และทะเลสาบ Oeschinen ก็สวยมากๆด้วยค่ะ เราสองคนประทับใจมาก พอพากันกลับมาถึงที่พักก็ใกล้จะค่ำแล้ว ทำอาหารทานกันนั่งคุยกันตรงหน้าที่พัก เราสองคนคุยกันว่าถ้ามีโอกาส ปีหน้าอาบจะกลับมาที่ทะเลสาบแห่งนี้อีกค่ะ

วันนี้เราไม่ได้เข้าไปเดินเล่นในเมืองเพราะอยากจะเก็บแรงไว้เที่ยวในวันพรุ่งนี้กันต่อค่ะ เพราะวันต่อไปเราจะไปขึ้นเขาที่มีชื่อเสียงมากๆที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นั่นคือภูเขาที่ชื่อว่า Matterhorn นั่นเอง เราต้องนั่งรถไฟไปอีกเมืองหนึ่งอีกด้วย และอาจจะต้องใช้เวลาทั้งวัน เพราะฉะนั้นเลยอยากเก็บแรงไว้สำหรับพรุ่งนี้กันดีกว่าค่ะ