เมือง Kandersteg เป็นเมืองที่เราจองที่พักไว้ เพื่อที่จะไว้ไปเที่ยวรอบๆแถวเขตนี้ค่ะ บอกเลยว่าเราสองคนไม่ได้คาดหวังอะไรมาก แต่พอมาเห็นเมืองนี้แล้วปรากฏว่าสวยมากกก….และประทับใจมาก ช่างเป็นเมืองสวยนอกสายตาจริงๆค่ะ
Kandersteg
โพสนี้เป็นวันเดียวกันจากโพสที่แล้วนะคะ เมือง Grimentz ที่ติด 1 ใน 10 เมืองสวยที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ พอได้เดินทางมาถึงเมือง Kandersteg แล้วเราก็เข้าไปเช็คอิน ที่พักตรงนี้เราจองผ่าน airbnb เหมือนเดิม แต่อาจแตกต่างตรงที่ไม่ใช่บ้านพักของคนทั่วไปนะคะ แต่เป็นที่ตั้งแคมป์ของลูกเสือโลก ซึ่งเขาแบ่งที่พักตรงนี้ไว้ให้แขกทั่วไปมาเช่านั่นเอง ซึ่งเราได้รีวิวที่พักไว้แล้วที่ รีวิวห้องพัก Airbnb 4 ที่ 4 สไตล์ ที่สวิตเซอร์แลนด์
ขณะที่เช็คอิน เจ้าหน้าที่ให้บัตรมาใบหนึ่ง สำหรับขึ้นรถสาธารณะต่างๆฟรี ในเขตเมืองนี้ค่ะ และสามารถเอาเป็นส่วนลดสำหรับการขึ้นกระเช้าในเขตนี้ได้อีกด้วยถึง 25 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว เลยทำให้รู้ว่าถ้ามาพักโรงแรมแถวเมืองนี้ลองถามบัตรส่วนลดนี้ดูนะคะ เพราะเขาบอกว่าส่วนมากทุกโรงแรมจะมีให้สำหรับลูกค้าที่เข้ามาพักค่ะ
พอเราเช็คอินเสร็จเราเข้าไปดูและเดินเที่ยวเล่นในเมืองกันดีกว่า จากที่พักมาในเมืองเดินเท้าจะประมาณ 1 กิโลเมตรค่ะ ไม่ไกลเลยค่ะ เดิน เพลินๆ แป้บเดียวถึงแล้ว บรรยากาศก็สวยตลอดทางเลย
รูปบรรยากาศในเมือง Kandersteg
บรรยากาศด้านหน้าที่พักค่ะ
ด้านหน้าที่พักจะมีสะพานข้ามแม่น้ำเล็กๆ
Kandersteg หรืออ่านว่า คันเดอร์สเตก เป็นหมู่บ้านบนภูเขาสูงในเขต Berner Oberland ที่นี่มีชื่อเสียงเส้นทางเดินป่า เช่น Allmenalp ซึ่งเป็นทางเดินที่ยากลำบาก และนอกจากนั้นยังมีกระเช้าที่อยู่ทางทิศตะวันออกไปทะเลสาบ Oeschinen ทะเลสาบแห่งนี้ที่เชิงเขา Blüemlisalp เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่เล่นสกียอดนิยม และนั้นยังมี Sunnbüel ทางตะวันตกเฉียงใต้ ในอุทยานธรรมชาติ Blausee ที่เป็นที่นิยมอีกแห่ง ซึ่งอยู่ทางป่าตอนเหนือคือ Blausee ซึ่งเป็นทะเลสาบขนาดเล็กที่มีปลาเทราต์จำนวนมาก
ทางเดินเข้าไปในเมือง
บรรยากาศดี และสวย สะอาดตามากเลยค่ะ
เราเดินดู และเที่ยวรอบเมืองกันเสร็จ ก็พากันนั่งดื่มอะไรเย็นๆกัน จากนั้นก็พากันเดินไปสอบถามเกี่ยวกับการเดินทางไป Matterhorn กันในวันพรุ่งนี้กับเจ้าหน้าที่ ที่สถานีรถไฟกันค่ะ ว่าทางไหนดีที่สุด และประหยัดที่สุด เราได้คำแนะนำที่ดีมากๆเลยเพราะทำให้รู้ว่า การเดินทางด้วยรถไฟจากเมืองนี้ไป จะดีกว่าที่จะขับรถไปกันเองค่ะ นั่นแหละทำให้เราตัดสินใจซื้อบัตร Erlebnis Card กัน ตามที่เจ้าที่แนะนำ
Erlebnis Card คือบัตรอะไร ?
เดี๋ยวจะมาอธิบายเรื่องบัตร Erlebnis Card แบบคร่าวๆให้ทุกคนรู้จักกันนะคะ บัตรนี้จะคล้ายๆ Swiss Pass ค่ะ เช่นขึ้นไฟต่างๆ รถสาธารณะเช่น รถบัส ฟรี และถ้ากระเช้าขึ้นเขาจะ 50 % แต่!!!ใช้ได้เฉพาะในเขตเมืองนี้เท่านั้นะคะ คือ Spiez, Interlaken, Montana, Leukerbad, Zermatt, Saas-Fee, Brig, Domodossola, Andermatt, Disentis und Chur เท่านั้นนะคะ
บัตรนี้จะมี 3 แบบ คือ
- แบบ 2 วัน ราคา 109 ฟรังก์
- แบบ 3 วัน ราคา 152 ฟรังก์
- แบบ 5 วัน ราคา 197 ฟรังก์
(ราคาปี 2021) ซึ่งสำหรับเรานะถือว่าราคาดีมาก ราคาไม่แพง แถมถ้าอากาศไม่ดีเราไม่อยากขึ้นภูเขาก็สามารถใช้วันหลังได้นะ เพราะบัตรนี้มีอายุ 1 เดือนค่ะ ในรูปนี้คือเมืองที่ใช้บัตรนี้ได้นะคะ (และมีเฉพาะปี 2021-2023)
อัปเดตราคาและสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก www.erlebniscard.ch
พอได้บัตรสำหรับเดินทางพรุ่งนี้แล้ว ก็สบายใจละ จากนั้นพวกเราก็พากันเดินไปซุปเปอร์มาเก็ตใกล้ๆแถวนั่น เพื่อซื้อของไปทำอาหารเย็นทานกัน และพักผ่อนเก็บแรงไว้เดินทางเที่ยวกันพรุ่งนี้ต่อค่ะ บอกเลยว่าเมืองนี้สวยแบบคาดไม่ถึงจริงๆค่ะ อยากให้ทุกคนมีโอกาสมาเที่ยวแถวนี้ลองแวะมาเที่ยวเมืองนี้ดูนะ หรือมาพักก็ดี แถมแสงตอนเย็นๆนะ เหมาะกับการถ่ายรูปสุดๆเลยค่ะ