grimentz

เที่ยวเมือง Grimentz ที่ติด 1 ใน 10 เมืองสวยที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์

Europa เที่ยวนอกเยอรมัน

ไม่แวะไม่ได้แล้ว!!!  เมือง Grimentz ซึ่งเป็นเมืองที่ติด 1 ใน 10 เมืองสวยที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีหรือที่เราจะพลาด ก็เราต้องขับรถผ่านเส้นนี้อยู่แล้ว บอกเลยว่าพอไปเห็นแล้วไม่ผิดหวังเลยค่ะ

วันนี้คือวันที่ 7 ของทริปแล้วค่ะ ทริปนี้เป็นทริปที่เราขับรถเที่ยวที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์เป็นเวลา 14 วันเต็มค่ะ Plan ทริปขับรถเที่ยวด้วยตัวเอง ที่สวิตเซอร์แลนด์ 14 วัน และวันที่ผ่านๆมาแล้วไปเที่ยวไหนมาบ้าง ก็สามารถกลับไปอ่านโพสที่ผ่านได้นะคะ Lausanne เมืองสวยริมทะเลสาบเจนีวา

เส้นทางที่เราขับจาก Lausanne ไป Kandersteg ถ้าเราแวะเที่ยวเมือง Grimentz ก็เห็นว่าอยู่ไม่ไกลจากถนนใหญ่มากนะ

เราเดินทางออกจากที่พักที่เมือง Lausanne ประมาณ 09:00 น กว่าเกือบ 10:00 น แล้ว ที่จริงเราต้องไปเช็คอินที่เมือง Kandersteg ช่วงบ่ายใช่ไหมค่ะ แล้วถ้าเราขับรถตรงไปเลย เราก็จะมีเวลาเหลืออยู่ เพราะยังไม่ถึงเวลาเช็คอิน ทีนี้มีเมืองหนึ่ง ที่เราอยากไปมากๆ ซึ่งจากที่เราดูในแผนที่แล้ว ก็อยู่ไม่ไกลจากถนนใหญ่ด้วย และเป็นไปทางที่เราต้องผ่านอยู่แล้ว เลยบอกสามีว่า เราลองแวะเที่ยวเมืองนี้กันก่อนไหม ชื่อเมือง Grimentz เค้าบอกว่า เป็นหนึ่งในสิบเมืองที่สวยที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์เลยเชียวนะ ซึ่งทำให้เรารู้สึกว่าต้องเห็นกับตาให้ได้ว่า เมือง Grimentz สวยขนาดนั้นจริงๆหรือเปล่า

สามีตอบตกลงที่จะแวะไปเมือง Grimentz กัน ระหว่างทางเราแวะทานอาหารกันก่อนเนื่องจากเริ่มหิวกันแล้ว เราสองคนยังไม่ได้ทานอาหารเช้ากันเลย เลยพากันแวะที่พักรถระหว่างทางซึ่งที่พักรถตรงนี้มีห้องน้ำด้วยข้างบนยังมีที่ชมวิวแถมข้างๆห้องน้ำมีที่นั่งซึ่งสามารถเรานั่งพักและทานอาหารได้เป็นซุ้มต้นองุ่น และองุ่นก็กำลังออกผลเลย

เพราะทานกันเสร็จแล้ว ก็เดินทางกันต่อค่ะ ก็ถึงทางแยกที่ต้องขึ้นไปหมู่บ้าน จากทางแยกไปหมู่บ้านนี้ประมาณ 20 กิโลเมตร จากที่ดูใน GPS แล้วดูเหมือนไม่ไกล 20 กิโลเนาะแต่หารู้ไม่ว่า  20 กิโลกรัมนั้นคือเป็นทางที่ขึ้นเขาตลอดเวลา และเป็นโค้งคดเคี้ยวมากๆ เลี้ยวไปเลี้ยวมา เลี้ยวขึ้นเขาไปเรื่อยๆไม่จบไม่สิ้น พอๆกับการไปปายเลย บางทีก็คิดว่าเราคิดผิดหรือเปล่านะ ที่แวะเที่ยวเมืองนี้ ก่อนเพราะคิดว่าถนนมันจะคดเคี้ยวขนาดนี้ นั่งไปเกร็งไปตลอดทางเลย 555

เมือง Grimentz

เมื่อขับรถมาถึงเมือง Grimentz แล้ว เราก็มองหาที่จอดรถกัน เห็นที่จอดรถอยู่หน้าหมู่บ้านเลย เลยขับรถเข้าไปจอด ต้องแปลกใจเพราะว่าที่จอดรถฟรีค่ะ !!! คือถ้าเราจอดไม่ถึง 2 ชั่วโมงไม่ต้องเสียเงินค่ะ ซึ่งดีมากๆเลย สามีเลยบอกว่างั้นเราจะจอดไม่ให้ถึง 2 ชั่วโมงนะ รีบเดินเที่ยวแล้วก็ขับกันไปต่อดีกว่า อ้าวววว…..5555

ที่จอดรถฟรี 2 ชั่วโมง ที่เมือง Grimentz
กดปุ่มตรงสีเขียว จะมีบัตรออกมา แล้วให้เราเอาบัตรนี้ไปวางไว้หน้ารถ เผื่อเจ้าหน้าที่มาตรวจ จอดฟรี 2 ชั่วโมงจ้า พอเดินถ่ายรูปได้สบายๆ

พอจอดรถเสร็จแล้ว ก็พากันเดินเข้าไปในหมู่บ้านตะลึงมากถึงความสวยงามมากค่ะ โอโห สวยสุดๆ คือสวยตั้งแต่เดินเข้าหมู่บ้านเลย ดอกไม้เต็มไปหมด ทุกบ้านประดับประดาเต็มไปด้วยดอกไม้ เราชอบมากๆ ไม่คิดว่าจะสวยขนาดนี้ สวยเหมือนที่เห็นในรูปเลย และรู้สึกว่าไม่ผิดหวังจริงๆที่ได้แวะเข้ามา

Grimentz อยู่ที่ระดับความสูง 1553 เมตรจากระดับน้ำทะเล เมืองนี้อยู่ในเขตการปกครองของ Deanery of Sierre และชุมชนพลเมืองที่มีสภาเทศบาลของเขต Sierre และรีสอร์ทตากอากาศใน Val d’Anniviers ที่พูดภาษาฝรั่งเศสของรัฐวาเล (Kanton Walli) ในสวิตเซอร์แลนด์ค่ะ

พากันเดินเที่ยวรอบๆหมู่บ้านกันค่ะ สวยมากๆ บ้านทุกหลังจะประดับไปด้วยดอกไม้ สวยเกินคำบรรยายจริงๆ

 เราเดินถ่ายรูปและถ่ายวีดีโอกันเกือบจะ 2 ชั่วโมงเต็ม รู้สึกว่าเราถ่ายรูปยังไม่สะใจเลย ยังอยากถ่ายรูปอยู่เลย 555 แต่ก็ต้องกลับแล้ว เพราะต้องขับรถไปต่อกัน ถึงแม้ว่าเราไม่มีโอกาสได้อยู่นานๆ แต่ก็ยังคิดว่าโชคดีที่ได้แวะ ไม่เป็นไรโอกาสหน้ายังมี สักวันคงอาจจะได้กลับมาอีกก็ได้ ใครจะรู้เนาะ

เดินทางต่อไปเมือง Kandersteg 

เส้นทางจากเมือง Grimentz ไป Kandersteg

เราขับรถออกจากเมือง Grimentz น่าจะประมาณ 15:00 น แล้ว กะว่าน่าจะไปถึงที่เมือง Kandersteg น่าจะช่วงเวลาเช็คอินพอดี แต่หารู้ไหมว่าพอออกจากเมืองแล้วก่อนถึงเมืองประมาณ 20 กิโลกรัมปรากฏว่าเราต้องเอารถเราขึ้นรถไฟที่ Goppenstein เพื่อผ่านอุโมงค์ไปเมือง Kandersteg ค่ะ เราต้องซื้อตั๋วแล้วจากนั้นก็ต่อคิวเพื่อขึ้นรถไฟ ราคาตั๋วอยู่ที่ 29.50 ฟรังก์

ราคาตั๋วเพื่อเอารถเราขึ้นรถไฟไปเมือง Kandersteg คือราคา 29.50 ฟรังก์ค่ะ
ซื้อตั๋วเสร็จก็ต้องมาต่อคิวขึ้นรถไฟกันแบบนี้ค่ะ ขับตามเค้าไปเรื่อยๆ

 เราใช้เวลาในการตั้งแต่ซื้อตั๋วจนกระทั่งรอคิวขึ้นรถไฟประมาณ 1 ชั่วโมงเต็มช่วงนั้นอากาศร้อนมากและเราก็เริ่มหิวโชคดีที่เรามักจะทำแซนวิชไว้ติดกระเป๋าตลอดและมีขนมนิดๆหน่อยๆติดรถน้ำซึ่งมีพร้อมตลอดเวลาในรถทำให้เราไม่มีปัญหาในระหว่างที่รอรถนานและอากาศที่ร้อนแบบนี้ค่ะ

มองไปขวามือระหว่างรอก็เห็นรถไฟที่เราจะขึ้นค่ะ ถ้ารถไฟเต็มแล้ว เราต้องรอรอบต่อไปนะ

ตั่งซื้อตั๋วมาแล้วก็รอคิวขึ้นรถไฟเป็นชั่วโมงเหมือนกันนะ โชคดีที่เรามีน้ำและอาหารติดรถมาด้วยตลอด แต่ถ้าใครไม่มีก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะที่ข้างหน้ามีร้านขายของกิน และห้องน้ำฟรีให้เข้าอยู่ ซึ่งระหว่างที่จอดรอคิวขึ้นรถไฟอยู่นั้น เราก็เดินออกไปซื้อของหรือเข้าห้องน้ำก็ได้ค่ะ

พอขับขึ้นบนรถไฟมาแล้ว ขับไปเรื่อยๆ ต้องจอดชิดกันนะ (จะมีเจ้าหน้าที่มาบอก) เราต้องดับเครื่อง ห้ามออกไปไหน นั่งในรถของเราจนกว่าจะพ้นอุโมงค์ค่ะ นั่งกันว่าจะประมาณครึ่งชั่วโมงถึง 40 นาทีประมาณนั้นค่ะ (ช่วงจุดนี้จะเสียเวลาประมาณเกือบ 2 ชั่วโมงได้ ตั่งแต่ซื้อตั๋วเข้ามานะคะ)

ที่เราเช็คอินที่เมือง Kandersteg ค่ะ

พอขับมาถึงเมือง Kandersteg เราก็พากันไป Check In  ที่พักของเรา 3 วันนี้จะพักในแคมป์ของลูกเสือโลกกัน เราได้รีวิวที่พักไว้แล้วในลิงค์นี้สามารถเข้าไปอ่านได้เลยค่ะ รีวิวที่พักของเรา รีวิวห้องพัก Airbnb 4 ที่ 4 สไตล์ ที่สวิตเซอร์แลนด์

ที่พักของเราจะอยู่ด้านหลังของตึกที่เช็คอินนี้ ซึ่งเป็นที่ตั้งแค้มป์ของลูกเสือโลก หรือสมาชิก บางส่วนเค้าก็แบ่งให้คนภายนอกมาเช่ากางเต๊นท์ได้เหมือนกันค่ะ เราจะเที่ยวไหนมั่งในขณะที่เราพักที่นี่ สามวันสองคืน ก็รอติดตามกันนะคะ