santorini (4)

เที่ยว Santorini เกาะในฝัน

Europa เที่ยวนอกเยอรมัน

สามีถามว่าใกล้วันครบรอบแต่งงานแล้ว อยากไปเที่ยวที่พิเศษๆมั่งไหม หรือที่ไหน ที่อยากไป แล้วไม่ได้ไปไหม อยากให้เราเสนอความคิดมา เพราะใกล้ถึงหน้าร้อนแล้ว อยากจะทำแพลนเที่ยว และะจะได้จองโรงแรมล่วงหน้าไว้เลย เพราะเวลาหน้าร้อนโรงแรมจะเต็มเร็วมาก จะหาโรงแรมยาก และแพงขึ้นมากด้วย เรารีบตอบทันทีเลยว่า เราอยากไปเที่ยวเกาะซานโตรีนี ที่ประเทศกรีซซักครั้ง เพราะเราเคยเห็นแต่ในนิตยสารท่องเที่ยว ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวย และโรแมนติกมากด้วย เราเลยอยากไปเห็นซักครั้งค่ะ….

สามีได้ฟังก็บอก ได้ซิ ในเมื่อเราอยากที่นั่น แต่เราต้องเป็นคนหาข้อมูล และแพลนการท่องเที่ยวเองนะ เราดีใจมาก ที่สามีตามใจ เรื่องการแพลนการท่องเที่ยวนี้ เราชอบอยู่แล้ว เพราะเรารู้ว่าสามีชอบแบบไหน และการกินการอยู่เราสองคนเวลาเที่ยวก็เป็นคนง่ายๆด้วยกันทั้งคู่ ก็ไม่ยุ่งยากอยู่แล้ว

Santorini (ซานโตโรนี) คนเยอรมันเรียก Santorin เป็นหนึ่งในเกาะชื่อดัง ซึ่งตั้งอยู่ที่ประเทศ Greece (ประเทศกรีซ) หรือทางคนเยอรมันว่า Griechenland ค่ะ ในทศวรรษที่ 16 เป็นเกาะที่เคยมีการประทุของภูเขาไฟมาก่อน ทำให้เกาะแห่งนี้มาลักษณะขรุขระ และลักษณะเด่นของที่นี่คือบ้านสีขาวสี่เหลี่ยมรูปทรงลูกบาศก์ ตั้งอยู่บนเนินเขาของหน้าผาซึ่งตัดกับสีทะเลสีคราม ทำให้สวย เด่นเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ค่ะ นอกจากนั้นที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็นที่ๆมีพระอาทิตย์ตกดินที่สวยและโรแมนติกที่สุดในโลกด้วย

เมือง Fira (Thira) และ Oia เป็นเมืองที่ดังและสวยที่สุดในเกาะนี้ค่ะ และปัญหาแรกก็เกิดขึ้น เช่นถ้าเป็นสถานที่อื่นอาจจะง่ายในการจองโรงแรม หาโรงแรม แต่ที่ซานโตโรนี่ จากที่ทุกคนรู้เป้นเกาะที่ยอดนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก ทำให้โรงแรมแพงมากๆ โดยเฉพาะฤดูท่องเที่ยว หรือหน้าร้อนนั้น ราคาโรงแรมพุ่งสูงขึ้นเป็นเท่าตัว โดยเฉพาะโรงแรมที่อยู่ในเมืองยอดนิยม และมีวิวติดทะเล ราคานี้ไม่ต้องพูดถึงเลย แพงมากๆ

โรงแรมที่เราพักค่ะ อ่านรีวิวโรงแรม

สำหรับเรามันแพงเกินไป ที่จองห้องคืนละ 30,000 บาท-50,000 บาท แล้วจะเที่ยวเป็นอาทิตย์ คิดดูว่าเราต้องจ่ายไปเท่าไหร่ เราเลยบอกกับสามีว่า เราจะจองเมืองข้างนอกเอาละกัน ที่ไม่ใช่เมืองยอดนิยมอย่าง Fira หรือ Oia เพื่อจะได้ไม่ต้องค่าโรงแรมที่แพงจนเว่อร์ แล้วส่วนมากเราสองคนก็ออกไปเที่ยวซะส่วนใหญ่ จึงไม่มีความจำเป็นในการนอนโรงแรมแพงๆเลย เก็บตังค์ไว้เที่ยวที่อื่นด้วย เพราะยังมีอีกหลายประเทศที่เรายังไม่เคยไป และยังอยากไปเที่ยว

รูปหน้าสนามบินของซานโตรินี เป็นสนามบินขนาดเล็ก ข้างหน้าสนามบินมีแท้กซี่จอดเรียงอยู่เต็มเลย ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่มีรถเข้าเมือง

ในที่สุดเราก็หาโรงแรมได้ ในราคาที่เอื้อมถึง ดีใจมาก ถึงอยู่ข้างนอกเมืองหน่อย แต่ไม่น่าจะเป็นปัญหา เพราะจากที่อ่านดูรีวิวของเกาะนี้แล้วก็รู้ว่า บนเกาะนี้มีรถบัสวิ่งรอบเกาะทุกๆ 30 นาที และแวะทุกเมือง ซึ่งถือว่าสะดวกระดับหนึ่ง มีหลายๆรีวิวแนะนำว่า ไม่แนะนำให้เช่ารถขับ เพราะหาที่รถยากและถนนรอบเกาะแคบ และอันตรายมาก ทำให้โปรแกรมที่เราวางไว้ว่าจะเช่ารถขับเที่ยวกัน ต้องคิดทบทวนอีกรอบว่าจะเช่ารถขับรอบเกาะดีไหม หรือจะใช้บริการรถบัสอย่างเดียว

วิวจากเมือง Fira หรือ ที่เรียกว่า Thira

วันเดินทางก็มาถึง โชคดีที่เราอยู่เยอรมันเลยทำให้การเดินทางมาที่นี่ง่าย และค่าเครื่องบินก็ไม่แพงด้วย บินแป้บเดียวก็ถึง เราเดินทางจากสนามบินมาโรงแรมด้วยแท๊กซี่ ห้องเราจองเป็นห้องเตียงใหญ่ แบบธรรมดา รวมอาหารเช้าด้วย คืนละ 140 ยูโร ถ้าคิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 4,900 บาท ถือว่าใช้ได้ในราคานี้ พอเช็คอินเสร็จแล้วเราสองก็แพลนกันเลยว่าวันพรุ่งนี้เราจะทำอะไรก่อน และจะเที่ยวเมืองไหนเป็นเมืองแรก และจะเดินทางกันอย่างไร และถามพนักงานต้อนรับด้วยเพื่อประกอบการตัดสินใจอีกที อ่านรีวิวโรงแรม

กิจกรรมวันแรก

สามียืนมองวิว ความสวยงามที่ลงตัวของซานโตรีนี

วันแรกเราสองเดินทางไปเมืองสุดฮิตก่อนละกัน คือเมือง Fira หรือเรียกอีกชื่อว่า Thira ซึ่งเป็นเมืองหลวงของเกาะซานโตรีนีค่ะ และเป็นเมืองท่าเรือของเรือสำราญต่างๆด้วย วันนี้เราเลือกเดินทางมาเมือง Fira ด้วยรถบัสประจำทางตามคำแนะนำของพนักงานต้อนรับของโรงแรม ซึ่งเดินจากโรงแรมมาป้ายรถก็ไม่ไกลมากนัก ค่ารถก็ถูกมาก แค่ 2.30 ยูโรเอง นั่งรถมาประมาณ 20 นาทีก็ถึงค่ะ

ร้านต่างๆเริ่มเปิด
เดินดูรอบๆ บันไดเยอะมาก ใครมาเที่ยวที่นี่ควรใส่รองเท้าที่กระชับ และเหมาะกับการเดินขึ้นๆลงๆ
สวยจัง แวะถ่ายรูปทุกจุด

เราตกตะลึงในความสวยของที่นี่มาก เราแทบไม่จะเชื่อสายตาตัวเองเลยว่า สวยเหมือนในรุปภาพที่เห็นเลย คือสวยมากกกก บ้านเรือน ร้านค้าทุกอย่างเป็นสีขาว ทะเล และท้องฟ้าเป็นสีคราม ช่างตัดกันได้ดี และเหมาะเจาะที่สุด เราไม่รอช้า รีบยกล้องถ่ายรูปรัวๆเลยจ้า โชคดีที่เราสองคนมาตอนเช้า เลยยังไม่มีนักท่องเที่ยวมากนัก ทำให้เราถ่ายรูปได้สบายๆค่ะ

เราจะเดินรอบๆและหยุดดูวิวเป็นพักๆ แดดเริ่มออก เริ่มร้อนแล้ว
มีคนมาคล้องกญแจด้วย
กระเช้าสำหรับลงไปท่าเรือข้างล่าง สูงมากๆเลย
เดินเที่ยวต่อค่ะ
เรารู้สึกมาไกลไป เลยวกกลับค่ะ เดี๋ยววันหลังจะมาเดินไปเที่ยวที่หมุ่บ้านอื่นๆกัน
ห้องที่มีวิวประมาณนี้จะแพงมาก โดยเฉพาะห้องที่มีสระน้ำด้วย
สามีชวนเดินลงไปท่าเรือ
เดินไปได้ซักพักก็เปลี่ยนใจไม่ไปดีกว่า เพราะร้อนมากๆ กลัวเดินขึ้นกลับกันไม่ไหว เพราะไม่ใช่ใกล้ๆเลย
ไกลมาๆ ส่วนมากนักท่องเที่ยวจะนั่งลากัน แต่เราสงสาร ไม่นั่งดีกว่า สงสารลา
น่าสงสารลาเนาะ คงทั้งร้อน ทั้งหนัก

เราสองคนเดินเที่ยวรอบๆ ถ่ายรูปเล่นกันไปเรื่อยๆ ไม่มีเบื่อเลย พอช่วงสายๆหน่อยนักท่องเที่ยวเริ่มมาละ คนเริ่มเยอะ อากาศก็เริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ เราเดินถ่ายรูปจนพอใจแล้ว เลยพากันเดินหลบแดดกันโดยเดินดูสินค้า ร้านขายของที่ระลึกแถวนั้นค่ะ เดินเพลินดี มีของขายเยอะแยะไปหมด ได้หมวกสีน้ำเงินใบกว้าง มาหนึ่งใบ สามีซื้อให้ เพราะเห็นว่าอากาศร้อนมาก และเราเองก็ดันลืมเอาหมวกมาด้วย

เดินกลับ แวะดูร้านตามข้างทางเดินไปเรื่อยๆค่ะ แต่ยังไม่ซื้อ เพราะเรายังมีเวลาหลายวันอยู่
ร้านขายของมีตลอดทาง
ร้านเริ่มเปิดแล้ว เลยเดินเข้าไปเพื่อพักดื่มน้ำ ดื่มกาแฟเย็นๆกัน
ฟินไปอีก อยากนั่งดูวิวแบบนี้ทั้งวันเลย 555
นั่งทำแพลนเที่ยวจะไปไหนต่อกันดี
นกข้างๆร้าน
นั่งดูวิว
เวลาเดินต้องระวังค่ะ แถวนี้ร้านค้าเยอะมาก เราหลบร้อนด้วยการเดินดูของกันดีกว่า
เทพกรีซต่างๆ น่าสนใจมาก สวยๆทั้งนั้นเลย
สามีสนใจมาก อยากซื้อกลับเยอรมัน แต่กลัวว่าการขนส่งจะไม่ดีพอ อาจทำให้รูปปั้นต่างๆแตกหักได้ เลยเปลี่ยนใจไม่ซื้อ
ช่วงบ่ายแล้ว น้องแมวดูง่วงๆนะ อิอิ
ช่วงนี้คนเริ่มเยอะแล้ว รีบถ่ายรูปคู่เป็นที่ระลึกก่อนกลับโรงแรมกันค่ะ

พอกลับมาถึงโรงแรมพวกเราพักให้หายร้อนซักพัก บ่ายแก่ๆเราก็เดินไปที่หาดที่ใกล้ที่สุดค่ะ กะว่าจะหาอะไรทานมื้อเย็นที่นั่นด้วย จากโรงแรมเดินไปชายหาดที่ใกล้ที่สุดประมาณ 1,2 กิโลเมตร แต่สำหรับเราถือไม่ไกลเท่าไหร่ เพราะแทบทุกทริปพวกเราจะเดินกันเยอะมาก เดินเล่น เดินคุยกันไปเรื่อยๆก็ถึงค่ะ ถือว่าออกกำลังกาย อากาศช่วงเย็นก็ไม่ร้อนมากแล้วด้วย

ถึงแล้วค่ะ
คนมาเล่นน้ำยังมีประปราย แต่ไม่เยอะแล้ว
ช่วงเย็นเค้าเริ่มเก็บเตียงริมหาด แล้วล็อคไว้ เหมือนบ้านเราเลย
อีกฝั่งหนึ่ง
น้ำใสน่าเล่นมาก แต่หาดมีแต่กรวด และหินเล็กๆเต็มไปหมด ไม่ใช่ทรายขาว สวยๆเหมือนแถวเมืองไทยเลย

เราเดินดูรอบๆกันซักพัก ก็คุยกันว่าเดี๋ยววันไหนว่างๆจะมาเล่นน้ำกันที่นี่ ถึงชายหาดจะเป็นหินกรวด แต่นำ้ก็ใส และน่าเล่นมาก ร้านอาหารก็เยอะน่านั่ง บรรยากาศดีด้วย เดินซักพักเห็นร้านหนึ่งดูเมนูหน้าร้านแล้วน่าสนใจมาก เราเลยตัดสินใจที่นั่งทานอาหารเย็นกันร้านนี้กัน พนักงานก็บริการดีมาก และอาหารก็ไม่แพงด้วย

ร้านอาหารริมหาดเริ่มเปิด สำหรับมื้อเย็น
อาหารมื้อแรกของเรา ลองอาหารพื้นเมืองกันค่ะ
หัวหอมซุป อาหารจานหลัก ลืมถ่ายมาค่ะ เพราะหิวมาก พอนึกได้ก็ทานหมดแล้ว 555
วิวจากร้านอาหาร

วันนี้ถือว่าเป็นแรกที่ประทับใจมาก ยังเหลืออีกหลายวันที่ซานโตรีนี เกาะโรแมนติกในฝันของเรา

กิจกรรมวันที่ 2

หลังจากที่ประทับใจในวันแรกแล้ว วันที่สองเราก็ลุยต่อค่ะ จากที่เราแพลนไว้แล้วว่าเราจะเดินในเมืองกันต่อ พอทานอาหารเช้ากันแล้ว เราสองคนนั่งรถบัสประจำทางไปเที่ยวกันต่อที่เมือง Fira แต่วันนี้เราจะเดินจากตัวเมือง ไปอีกเมืองกันค่ะ โดยอาศัยแผนที่ ที่เราขอมาจากแผนกต้อนรับของโรงแรม เราสองคนเตรียมหมวก เตรียมน้ำดื่มพร้อมออกเดินทาง เพราะจำได้ว่าเมื่อตอนวันแรกคือร้อนมากๆ ร้อนสุดๆ

วิวเมมื่อมาถึงตอน 10 โมงเช้า
จุดมุ่งหมายในวันนี้คือเดินเที่ยวจนไปถึงเขาลูกเล็กๆที่อยู่ในภาพนี้ฝั่งซ้ายมือค่ะ
สามีช่วยแบกกล้องให้ตลอด
เดินไปถ่ายรูปไป
ทางที่เราเดินเลาะไปเรื่อยๆ จะมีคนมานั่งเล่นดนตรีเปิดหมวกเป็นระยะๆ ก็เพลินดีเหมือนกันเนาะ
แดดเริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆเลย
โรงแรมเยอะมาก ส่วนมากแถวนี้มีแต่แพงๆ เพราะเค้าเน้นขายวิว
ร้านซุซิก็มีนะ
ร้านขายโพสการ์ด ร้านขายของที่ระลึกมีตลอดทาง เราก็แวะกันตลอดทาง 🙂
ผ่านร้านอาหารน่านั่งจังเลย
มาถึงอีกเมืองแล้วค่ะ ยืนพักถ่ายรูปเรือสำราญ เห็นมีอยู่ 2 ลำวันนี้
Imerovigli

เดินมาถึงหมุ่บ้าน Imerovigli แล้ว หมู่บ้านนี้อยู่ทางเหนือของเกาะซานโตรีนี ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างเมืองฟีร่าและเมือง Oia ค่ะ สวยเหมือนกัน เราหยุดพักถ่ายรูปกับแป้บหนึ่งก็เดินทางกันต่อค่ะ

ยืนพักถ่ายรูปเล่น ตอนนี้คือเที่ยงแล้ว ร้อนมากๆ ร้อนสุดๆ แต่วิวสวยสุดๆเหมือนกันค่ะ
ตรงนี้ก็เป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยม
เดินทางต่อ
เห็นโรงแรมนี้อดที่จะถ่ายรูปไม่ได้ ถ้าได้พักคงฟินหน้าดู
วิวจากโรงแรมสุดยอด แต่คงแพงน่าดู
ถ่ายแบบหลายๆมุมมองค่ะ
น้องหมาชะโงกดูวิว อิอิ
ทั้งร้อนทั้งเหนื่อย แต่อยากเที่ยว อยากถ่ายรูปก็ต้องลุยกันต่อค่ะ
ใกล้ถึงแล้ว แต่ขอแวะถ่ายรูปมุมนี้ก่อน
ตรงนี้คือเป็นมุมที่สวยมากๆ ลมเย็นๆพัดมาก ค่อยสบายหน่อย ยืนพักถ่ายรูปกันก่อนค่ะ
พอดีสามีซื้อหมวกนี้ให้เมื่อวาน เลยได้มาใส่วันนี้ เป็นพร้อบสวยๆไปอีก แถมยังกันแดดได้ด้วย ได้รูปสวยๆไปเพียบเลยค่ะ
เราเริ่มเดินมาไกลแล้วนะ เพราะเริ่ม ไม่ค่อยเห็นนักท่องเที่ยวแล้ว แต่วิวสวยๆก็ยังมีตลอดทาง
เราเดินมาไกลเหมือนกันนะ วิวจากเมือง Imerovigli
ฝั่งขวามือมองเห็นเมือง Oia
ใกล้ถึงจุดหมายแล้ว Skaros Rock
อย่างที่บอกร้อนจริงๆค่ะ นักท่องเที่ยวคนอื่นถึงกับถอดเสื้อเลย
ดอกหญ้าแถวนี้ทนแดดจริงๆ ดอกเล็กๆสวยดี
เราเดินลงมาตามบันไดเรื่อยๆ ถ้าหันกลับไปจะเห็นวิวแบบนี้
อย่างที่บอก ร้อนจริงๆ ปกติเป็นคนผิวแทนอยู่แล้ว วันนี้เจอแดดเต็มถึงกับดำไปเลยค่ะ อิอิ
เห็นวิวก็หายเหนื่อย

เรามาถึงจุดที่เราต้องการแล้ว เราพากันถ่ายรูปเป็นที่ระลึกเสร็จ เราก็พากันกลับค่ะ ตอนนั้นเริ่มหิว และกระหายน้ำมาก เพราะน้ำที่เอามาด้วยก็พากันดื่มหมดแล้ว เลยหาร้านอาหารแถวนั้นเพื่อทานข้าวเที่ยวกันเลย และจะได้นั่งพักด้วย พอเดินขึ้นมาถึงจุดทางที่เราลง ก็เห็นร้านอาหารน่านั่งอยู่ร้านหนึ่งอยู่แถวนี้พอดี ชื่อร้าน Pirouni คือดีงามมาก อาหารอร่อย วิวสวย จิบเบียร์เย็นๆคือฟินมากๆ หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง

จานนี้คือสลัดเห็ด
สลัดปู
หน้าร้านอาหารที่เรานั่งค่ะ ต้องขึ้นไปข้างบนอีกทีนะ วิวสวยสุดๆ
วิวจากร้านอาหาร

Tipp

อยากจะแนะนำว่าถ้าใครจะเดินเยอะๆเหมือนพวกเรา เตรียมน้ำกับของกินมาด้วย เช่นแซนวิซ ติดกระเป๋ามาด้วยจ้า และต้องแข็งแรงนิดหนึ่งนะ เพราะทางก็ชันใช้ได้เลย ร้อนมาก และเหนื่อยสุดๆ แต่วิวมันก็สวยสุดเหมือนกันค่ะ

……เราทานอาหารเสร็จเราก็เดินทางกลับกันค่ะ ตอนเย็นก็ไปฝากท้องที่ร้านตรงชายหาดเหมือนเดิม จากนั้นก็เดินดูร้านเช่ารถในเมือง เพราะพรุ่งนี้เราอยากเช่าขับเที่ยวรอบเกาะกันค่ะ เสร็จก็กลับโรงแรมมาพักผ่อนเพื่อเก็บแรงไว้เที่ยวกันต่อในวันต่อไป


อ่านต่อ

ตอนที่ 2 เที่ยวเมือง Oia สวยจนตะลึง!!!

ตอนที่ 3 ขับรถเที่ยวรอบเกาะ Santorini

Review โรงแรม Casa Vitae Suites, ซานโตโรนี