สามีถามว่าใกล้วันครบรอบแต่งงานแล้ว อยากไปเที่ยวที่พิเศษๆมั่งไหม หรือที่ไหน ที่อยากไป แล้วไม่ได้ไปไหม อยากให้เราเสนอความคิดมา เพราะใกล้ถึงหน้าร้อนแล้ว อยากจะทำแพลนเที่ยว และะจะได้จองโรงแรมล่วงหน้าไว้เลย เพราะเวลาหน้าร้อนโรงแรมจะเต็มเร็วมาก จะหาโรงแรมยาก และแพงขึ้นมากด้วย เรารีบตอบทันทีเลยว่า เราอยากไปเที่ยวเกาะซานโตรีนี ที่ประเทศกรีซซักครั้ง เพราะเราเคยเห็นแต่ในนิตยสารท่องเที่ยว ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวย และโรแมนติกมากด้วย เราเลยอยากไปเห็นซักครั้งค่ะ….
สามีได้ฟังก็บอก ได้ซิ ในเมื่อเราอยากที่นั่น แต่เราต้องเป็นคนหาข้อมูล และแพลนการท่องเที่ยวเองนะ เราดีใจมาก ที่สามีตามใจ เรื่องการแพลนการท่องเที่ยวนี้ เราชอบอยู่แล้ว เพราะเรารู้ว่าสามีชอบแบบไหน และการกินการอยู่เราสองคนเวลาเที่ยวก็เป็นคนง่ายๆด้วยกันทั้งคู่ ก็ไม่ยุ่งยากอยู่แล้ว
Santorini (ซานโตโรนี) คนเยอรมันเรียก Santorin เป็นหนึ่งในเกาะชื่อดัง ซึ่งตั้งอยู่ที่ประเทศ Greece (ประเทศกรีซ) หรือทางคนเยอรมันว่า Griechenland ค่ะ ในทศวรรษที่ 16 เป็นเกาะที่เคยมีการประทุของภูเขาไฟมาก่อน ทำให้เกาะแห่งนี้มาลักษณะขรุขระ และลักษณะเด่นของที่นี่คือบ้านสีขาวสี่เหลี่ยมรูปทรงลูกบาศก์ ตั้งอยู่บนเนินเขาของหน้าผาซึ่งตัดกับสีทะเลสีคราม ทำให้สวย เด่นเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ค่ะ นอกจากนั้นที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็นที่ๆมีพระอาทิตย์ตกดินที่สวยและโรแมนติกที่สุดในโลกด้วย
เมือง Fira (Thira) และ Oia เป็นเมืองที่ดังและสวยที่สุดในเกาะนี้ค่ะ และปัญหาแรกก็เกิดขึ้น เช่นถ้าเป็นสถานที่อื่นอาจจะง่ายในการจองโรงแรม หาโรงแรม แต่ที่ซานโตโรนี่ จากที่ทุกคนรู้เป้นเกาะที่ยอดนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก ทำให้โรงแรมแพงมากๆ โดยเฉพาะฤดูท่องเที่ยว หรือหน้าร้อนนั้น ราคาโรงแรมพุ่งสูงขึ้นเป็นเท่าตัว โดยเฉพาะโรงแรมที่อยู่ในเมืองยอดนิยม และมีวิวติดทะเล ราคานี้ไม่ต้องพูดถึงเลย แพงมากๆ
สำหรับเรามันแพงเกินไป ที่จองห้องคืนละ 30,000 บาท-50,000 บาท แล้วจะเที่ยวเป็นอาทิตย์ คิดดูว่าเราต้องจ่ายไปเท่าไหร่ เราเลยบอกกับสามีว่า เราจะจองเมืองข้างนอกเอาละกัน ที่ไม่ใช่เมืองยอดนิยมอย่าง Fira หรือ Oia เพื่อจะได้ไม่ต้องค่าโรงแรมที่แพงจนเว่อร์ แล้วส่วนมากเราสองคนก็ออกไปเที่ยวซะส่วนใหญ่ จึงไม่มีความจำเป็นในการนอนโรงแรมแพงๆเลย เก็บตังค์ไว้เที่ยวที่อื่นด้วย เพราะยังมีอีกหลายประเทศที่เรายังไม่เคยไป และยังอยากไปเที่ยว
ในที่สุดเราก็หาโรงแรมได้ ในราคาที่เอื้อมถึง ดีใจมาก ถึงอยู่ข้างนอกเมืองหน่อย แต่ไม่น่าจะเป็นปัญหา เพราะจากที่อ่านดูรีวิวของเกาะนี้แล้วก็รู้ว่า บนเกาะนี้มีรถบัสวิ่งรอบเกาะทุกๆ 30 นาที และแวะทุกเมือง ซึ่งถือว่าสะดวกระดับหนึ่ง มีหลายๆรีวิวแนะนำว่า ไม่แนะนำให้เช่ารถขับ เพราะหาที่รถยากและถนนรอบเกาะแคบ และอันตรายมาก ทำให้โปรแกรมที่เราวางไว้ว่าจะเช่ารถขับเที่ยวกัน ต้องคิดทบทวนอีกรอบว่าจะเช่ารถขับรอบเกาะดีไหม หรือจะใช้บริการรถบัสอย่างเดียว
วันเดินทางก็มาถึง โชคดีที่เราอยู่เยอรมันเลยทำให้การเดินทางมาที่นี่ง่าย และค่าเครื่องบินก็ไม่แพงด้วย บินแป้บเดียวก็ถึง เราเดินทางจากสนามบินมาโรงแรมด้วยแท๊กซี่ ห้องเราจองเป็นห้องเตียงใหญ่ แบบธรรมดา รวมอาหารเช้าด้วย คืนละ 140 ยูโร ถ้าคิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 4,900 บาท ถือว่าใช้ได้ในราคานี้ พอเช็คอินเสร็จแล้วเราสองก็แพลนกันเลยว่าวันพรุ่งนี้เราจะทำอะไรก่อน และจะเที่ยวเมืองไหนเป็นเมืองแรก และจะเดินทางกันอย่างไร และถามพนักงานต้อนรับด้วยเพื่อประกอบการตัดสินใจอีกที อ่านรีวิวโรงแรม
กิจกรรมวันแรก
วันแรกเราสองเดินทางไปเมืองสุดฮิตก่อนละกัน คือเมือง Fira หรือเรียกอีกชื่อว่า Thira ซึ่งเป็นเมืองหลวงของเกาะซานโตรีนีค่ะ และเป็นเมืองท่าเรือของเรือสำราญต่างๆด้วย วันนี้เราเลือกเดินทางมาเมือง Fira ด้วยรถบัสประจำทางตามคำแนะนำของพนักงานต้อนรับของโรงแรม ซึ่งเดินจากโรงแรมมาป้ายรถก็ไม่ไกลมากนัก ค่ารถก็ถูกมาก แค่ 2.30 ยูโรเอง นั่งรถมาประมาณ 20 นาทีก็ถึงค่ะ
เราตกตะลึงในความสวยของที่นี่มาก เราแทบไม่จะเชื่อสายตาตัวเองเลยว่า สวยเหมือนในรุปภาพที่เห็นเลย คือสวยมากกกก บ้านเรือน ร้านค้าทุกอย่างเป็นสีขาว ทะเล และท้องฟ้าเป็นสีคราม ช่างตัดกันได้ดี และเหมาะเจาะที่สุด เราไม่รอช้า รีบยกล้องถ่ายรูปรัวๆเลยจ้า โชคดีที่เราสองคนมาตอนเช้า เลยยังไม่มีนักท่องเที่ยวมากนัก ทำให้เราถ่ายรูปได้สบายๆค่ะ
เราสองคนเดินเที่ยวรอบๆ ถ่ายรูปเล่นกันไปเรื่อยๆ ไม่มีเบื่อเลย พอช่วงสายๆหน่อยนักท่องเที่ยวเริ่มมาละ คนเริ่มเยอะ อากาศก็เริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ เราเดินถ่ายรูปจนพอใจแล้ว เลยพากันเดินหลบแดดกันโดยเดินดูสินค้า ร้านขายของที่ระลึกแถวนั้นค่ะ เดินเพลินดี มีของขายเยอะแยะไปหมด ได้หมวกสีน้ำเงินใบกว้าง มาหนึ่งใบ สามีซื้อให้ เพราะเห็นว่าอากาศร้อนมาก และเราเองก็ดันลืมเอาหมวกมาด้วย
พอกลับมาถึงโรงแรมพวกเราพักให้หายร้อนซักพัก บ่ายแก่ๆเราก็เดินไปที่หาดที่ใกล้ที่สุดค่ะ กะว่าจะหาอะไรทานมื้อเย็นที่นั่นด้วย จากโรงแรมเดินไปชายหาดที่ใกล้ที่สุดประมาณ 1,2 กิโลเมตร แต่สำหรับเราถือไม่ไกลเท่าไหร่ เพราะแทบทุกทริปพวกเราจะเดินกันเยอะมาก เดินเล่น เดินคุยกันไปเรื่อยๆก็ถึงค่ะ ถือว่าออกกำลังกาย อากาศช่วงเย็นก็ไม่ร้อนมากแล้วด้วย
เราเดินดูรอบๆกันซักพัก ก็คุยกันว่าเดี๋ยววันไหนว่างๆจะมาเล่นน้ำกันที่นี่ ถึงชายหาดจะเป็นหินกรวด แต่นำ้ก็ใส และน่าเล่นมาก ร้านอาหารก็เยอะน่านั่ง บรรยากาศดีด้วย เดินซักพักเห็นร้านหนึ่งดูเมนูหน้าร้านแล้วน่าสนใจมาก เราเลยตัดสินใจที่นั่งทานอาหารเย็นกันร้านนี้กัน พนักงานก็บริการดีมาก และอาหารก็ไม่แพงด้วย
วันนี้ถือว่าเป็นแรกที่ประทับใจมาก ยังเหลืออีกหลายวันที่ซานโตรีนี เกาะโรแมนติกในฝันของเรา
กิจกรรมวันที่ 2
หลังจากที่ประทับใจในวันแรกแล้ว วันที่สองเราก็ลุยต่อค่ะ จากที่เราแพลนไว้แล้วว่าเราจะเดินในเมืองกันต่อ พอทานอาหารเช้ากันแล้ว เราสองคนนั่งรถบัสประจำทางไปเที่ยวกันต่อที่เมือง Fira แต่วันนี้เราจะเดินจากตัวเมือง ไปอีกเมืองกันค่ะ โดยอาศัยแผนที่ ที่เราขอมาจากแผนกต้อนรับของโรงแรม เราสองคนเตรียมหมวก เตรียมน้ำดื่มพร้อมออกเดินทาง เพราะจำได้ว่าเมื่อตอนวันแรกคือร้อนมากๆ ร้อนสุดๆ
เดินมาถึงหมุ่บ้าน Imerovigli แล้ว หมู่บ้านนี้อยู่ทางเหนือของเกาะซานโตรีนี ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างเมืองฟีร่าและเมือง Oia ค่ะ สวยเหมือนกัน เราหยุดพักถ่ายรูปกับแป้บหนึ่งก็เดินทางกันต่อค่ะ
เรามาถึงจุดที่เราต้องการแล้ว เราพากันถ่ายรูปเป็นที่ระลึกเสร็จ เราก็พากันกลับค่ะ ตอนนั้นเริ่มหิว และกระหายน้ำมาก เพราะน้ำที่เอามาด้วยก็พากันดื่มหมดแล้ว เลยหาร้านอาหารแถวนั้นเพื่อทานข้าวเที่ยวกันเลย และจะได้นั่งพักด้วย พอเดินขึ้นมาถึงจุดทางที่เราลง ก็เห็นร้านอาหารน่านั่งอยู่ร้านหนึ่งอยู่แถวนี้พอดี ชื่อร้าน Pirouni คือดีงามมาก อาหารอร่อย วิวสวย จิบเบียร์เย็นๆคือฟินมากๆ หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง
Tipp
อยากจะแนะนำว่าถ้าใครจะเดินเยอะๆเหมือนพวกเรา เตรียมน้ำกับของกินมาด้วย เช่นแซนวิซ ติดกระเป๋ามาด้วยจ้า และต้องแข็งแรงนิดหนึ่งนะ เพราะทางก็ชันใช้ได้เลย ร้อนมาก และเหนื่อยสุดๆ แต่วิวมันก็สวยสุดเหมือนกันค่ะ
……เราทานอาหารเสร็จเราก็เดินทางกลับกันค่ะ ตอนเย็นก็ไปฝากท้องที่ร้านตรงชายหาดเหมือนเดิม จากนั้นก็เดินดูร้านเช่ารถในเมือง เพราะพรุ่งนี้เราอยากเช่าขับเที่ยวรอบเกาะกันค่ะ เสร็จก็กลับโรงแรมมาพักผ่อนเพื่อเก็บแรงไว้เที่ยวกันต่อในวันต่อไป
อ่านต่อ
ตอนที่ 2 เที่ยวเมือง Oia สวยจนตะลึง!!!