ใครกำลังมีแพลนไปเที่ยวทะเลที่เยอรมนี (Ostsee) โดยเฉพาะเมืองดังๆ อย่าง Ahlbeck, Heringsdorf หรือ Bansin ต้องรู้เรื่องนี้ไว้เลย!
นั่นก็คือค่า Kurabgabe หรือที่คนไทยอาจเรียกกันว่า “ภาษีนักท่องเที่ยว” ซึ่งเป็นค่าธรรมเนียมที่ผู้มาเยือนจะต้องจ่ายให้กับเมืองตากอากาศที่ได้รับการรับรอง
Kurabgabe (หรือ Kurtaxe) คือค่าธรรมเนียมที่ผู้มาเยือน (นักท่องเที่ยว) จะต้องจ่ายเมื่อไปพักในสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งในเยอรมนีค่ะ โดยเฉพาะในเมืองตากอากาศที่ได้รับการรับรองจากรัฐบาลว่าเป็น “Kurort” หรือ “Seebad” ซึ่งชายฝั่งทะเลบอลติก (Ostsee) มีเมืองประเภทนี้อยู่หลายแห่งค่ะ

Kurabgabe คืออะไร และจ่ายไปเพื่ออะไร?
ค่าธรรมเนียมนี้ไม่ใช่ค่าเข้าชมหรือค่าใช้บริการโดยตรง แต่เป็นเงินที่รัฐบาลท้องถิ่นเรียกเก็บเพื่อนำไปใช้ในการบำรุงรักษาและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยวต่างๆ เพื่อประโยชน์ของนักท่องเที่ยว เช่น
- การดูแลชายหาด: การทำความสะอาดชายหาด การดูแลทราย และการดูแลสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ
- การดูแลสวนสาธารณะและพื้นที่สาธารณะ: การบำรุงรักษาทางเดิน สวน และพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจ
- การจัดกิจกรรมและงานเทศกาล: เงินที่ได้จะนำไปสนับสนุนการจัดกิจกรรมต่างๆ สำหรับนักท่องเที่ยว
- การบริการด้านการท่องเที่ยว: การจัดตั้งและดูแลศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยว (Tourist-Information) และการให้บริการอื่นๆ
อัตราค่า Kurabgabe และสิทธิประโยชน์
- อัตราไม่เท่ากันในแต่ละเมือง: ค่าธรรมเนียมนี้จะแตกต่างกันไปในแต่ละเมือง (Gemeinde) และมักจะแบ่งตามฤดูกาล โดยช่วงฤดูท่องเที่ยวหลัก (Hauptsaison) เช่นฤดูร้อน จะมีราคาแพงกว่าช่วงนอกฤดูท่องเที่ยว (Nebensaison)
- คำนวณต่อวันและต่อคน: ปกติแล้วจะคิดเป็นรายวันต่อคน (pro Tag und Person) และเด็กเล็กมักจะได้รับการยกเว้น
- ได้รับ “Kurkarte” หรือ “Ostseecard”: เมื่อคุณจ่ายค่า Kurabgabe แล้ว ผู้ให้บริการที่พัก (เช่น โรงแรม หรือเจ้าของอพาร์ตเมนต์) จะออกบัตรที่เรียกว่า “Kurkarte” หรือ “Gästekarte” ให้กับคุณ ซึ่งบัตรนี้มักจะมาพร้อมกับสิทธิประโยชน์มากมาย เช่น
- เข้าใช้ชายหาดได้ฟรี: ในบางเมือง การเข้าใช้ชายหาดสาธารณะจะเสียค่าธรรมเนียม แต่ถ้าคุณมี Kurkarte ก็จะเข้าได้ฟรี
- ส่วนลด: คุณอาจได้รับส่วนลดในการเข้าชมพิพิธภัณฑ์ สระว่ายน้ำ สถานที่ท่องเที่ยว หรือการใช้บริการบางอย่างในท้องถิ่น
- การใช้บริการขนส่งสาธารณะฟรี: ในบางเมือง บัตร Kurkarte อาจใช้เป็นตั๋วรถเมล์หรือรถรางในท้องถิ่นได้ฟรีด้วย
ต้องจ่ายอย่างไร?
คุณไม่จำเป็นต้องไปจ่ายค่า Kurabgabe ด้วยตัวเองที่สำนักงานใดๆ ส่วนใหญ่แล้วผู้ให้บริการที่พักจะเป็นผู้เก็บเงินจากคุณโดยตรง และจัดการส่งต่อให้รัฐบาลท้องถิ่นเอง ดังนั้นเมื่อคุณเช็คอินเข้าพักในโรงแรมหรืออพาร์ตเมนต์ที่ Ostsee พนักงานจะแจ้งให้ทราบถึงค่าธรรมเนียมนี้และรวมไว้ในยอดเรียกเก็บเงินของคุณค่ะ
แม้จะไม่ได้พักค้างคืนที่นั่น แต่ถ้าคุณไปเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับ (Tagesgäste) ในพื้นที่ที่เป็นเมืองตากอากาศที่ได้รับการรับรอง คุณก็ยังต้องจ่ายค่า Kurabgabe อยู่ดี ค่ะ
เหตุผลที่ต้องจ่าย
หลักการของค่า Kurabgabe คือใครก็ตามที่มาใช้ประโยชน์จากสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่รัฐบาลท้องถิ่นจัดเตรียมไว้สำหรับนักท่องเที่ยว เช่น ชายหาดที่สะอาด ทางเดินริมทะเล ห้องน้ำสาธารณะ รวมถึงบริการกู้ภัยชายหาด (DLRG) ก็จะต้องมีส่วนร่วมในการจ่ายค่าบำรุงรักษาเหล่านี้
วิธีการจ่ายสำหรับนักท่องเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับ
คุณจะไม่ได้จ่ายค่าธรรมเนียมนี้ผ่านที่พักเหมือนกับผู้เข้าพักค้างคืน แต่คุณจะต้องไปจ่ายด้วยตัวเองที่จุดที่กำหนดไว้ ดังนี้
- จุดจำหน่ายบัตร (Kurabgabeannahmestelle): คุณสามารถไปซื้อบัตรได้ที่สำนักงานการท่องเที่ยวท้องถิ่น (Tourist-Information), ตู้ขายตั๋วอัตโนมัติบางแห่ง หรือจุดให้บริการอื่นๆ ที่รัฐบาลท้องถิ่นกำหนดไว้ ซึ่งในบางเมืองอาจมีจุดจำหน่ายที่บริเวณชายหาดเลยก็มี
- เครื่องจำหน่ายตั๋ว (Parkscheinautomat): ในบางเมือง เช่น Waren (Müritz) จะมีเครื่องจำหน่ายตั๋วค่าจอดรถที่สามารถออกบัตร Kurabgabe สำหรับนักท่องเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับได้ด้วย
- จากผู้ให้บริการ (Leistungsträger): บางครั้งคุณอาจซื้อบัตรได้จากผู้ให้บริการอื่นๆ เช่น ผู้ให้เช่าเก้าอี้ชายหาด (Strandkorbvermieter) หรือโรงเรียนสอนโต้คลื่น (Surfschule)
เมื่อจ่ายแล้วคุณจะได้บัตร “Tageskurkarte” หรือบัตร Kurabgabe แบบรายวัน ซึ่งเป็นหลักฐานว่าคุณได้จ่ายค่าธรรมเนียมเรียบร้อยแล้ว
จะเป็นอย่างไรถ้าไม่ได้จ่าย?
ถ้าเจ้าหน้าที่มาตรวจบัตรแล้วคุณไม่มี Tageskurkarte คุณอาจถูกเรียกเก็บค่าปรับได้ (ในบางเมือง) ดังนั้นเพื่อให้การเดินทางราบรื่นและหลีกเลี่ยงปัญหาที่ไม่จำเป็น คุณควรตรวจสอบข้อมูลจากเว็บไซต์ของเมืองที่คุณจะไปเที่ยวเพื่อดูว่าต้องจ่ายค่า Kurabgabe หรือไม่ และสามารถซื้อได้ที่ไหนบ้าง
ข้อมูลเหล่านี้มักจะอยู่ในส่วนของ “Tourismus” หรือ “Kurabgabe” บนเว็บไซต์ของเมืองนั้นๆค่ะ
ตัวอย่าง
อย่างพวกเราไปเที่ยวและพักอยู่ฝั่งประเทศโปแลนด์ แต่แวะไปเที่เมือง Ahlbeck ของฝั่งเยอรมันด้วย เราก็ต้องเสีย Kurabgabe (ค่าธรรมเนียมบำบัด) สำหรับนักท่องเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับ (Tagesgäste) ในเมือง Ahlbeck ซึ่งมีราคาตามช่วงฤดูกาลดังนี้ค่ะ (ราคาสำหรับปี 2025)
- ฤดูท่องเที่ยว (Hauptsaison): ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ถึง 31 ตุลาคม ราคาอยู่ที่ 3.30 ยูโร ต่อคนต่อวัน
- ฤดูนอกท่องเที่ยว (Vorsaison/Nachsaison):
- ช่วงวันที่ 1 มกราคม ถึง 31 มีนาคม ราคาอยู่ที่ 2.70 ยูโร ต่อคนต่อวัน
- ช่วงวันที่ 1 พฤศจิกายน ถึง 31 ธันวาคม ราคาอยู่ที่ 2.90 ยูโร ต่อคนต่อวัน
ราคานี้รวมค่าใช้จ่ายในการใช้บริการรถบัสท้องถิ่น (UBB) ในโซน Kaiserbäder (Ahlbeck, Heringsdorf, Bansin) แล้ว และเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปีได้รับการยกเว้นไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมนี้ค่ะ