Kapelle zum HI. Valentin

โบสถ์ Kapelle zum HI. Valentin สุดโรแมนติกที่ออสเตรีย

Europa เที่ยวนอกเยอรมัน

เดินเขาขึ้นไปดูโบสถ์สุดแสนโรแมนติกที่เห็นใน Intragram บ่อยๆ โบสถ์ Kapelle zum Hl. Valentin สวยงามเกินคำบรรยายจริงๆ

พวกเราสองคนเดินทางจากเยอรมันนะคะ แวะเที่ยวแถว Berchtesgaden ที่เยอรมันมา 3 วัน 2 คืนแล้วค่ะ ซึ่งสามารถอ่านรีวิวทริปที่ผ่านมาได้จาก

จากนั้นก็ขับรถมาเที่ยวต่อที่ออสเตรีย เราพักที่ Apartment Gredler Martina สามารถอ่านรีวิวที่พักที่ออสเตรียได้ที่

ทริปนี้เป็นทริปเดินเขาที่ออสเตรียค่ะ เป็นทริป 4 วัน 3 คืน ซึ่งจะเดินเขากันทั้งสามวันเลย เรามาถึงกันเมื่อวานแล้ว วันแรกก็ไม่ได้ทำอะไรมากค่ะ เราสองคนพากันเดินเข้าไปเที่ยว และหาอะไรทานในเมือง Mayrhofen กัน จากนั้นก็กลับที่พักเพื่อแพลนกันว่าจะเดินเขาเส้นไหนกันก่อนค่ะ

Kapelle zum HI. Valentin

ตกลงวันเดินเขาวันแรกของเรา พวกเราตกลงที่จะเดินเขาเพื่อที่โบสถ์ Kapelle zum HI. Valentin กันค่ะ เป็นโบสถ์เล็กๆ โดยมีอ่างเก็บน้ำเป็นฉากหลังอยู่บนเขา ที่พวกเราจะเห็นใน Instragram บ่อยๆนั่นเองค่ะ

ตั้งอยู่ที่

โบสถ์เล็กๆที่ชื่อว่า Kapelle zum HI. Valentin ตั้งตระหง่านอยู่เหนือโรงแรม “Einkehr zum Adlerblick” บนอ่างเก็บน้ำ Zillergrund ในเขต Zillertal ประเทศออสเตรียค่ะ

ประวัติความเป็นมา

ประวัติความเป็นมาของโบสถ์แห่งนี้คือ ได้สร้างมาตั้งแต่ปี 2009 คุณ Obermairs สร้างโบสถ์ขึ้นเพื่อระลึกถึงคุณปู่ผู้ล่วงลับไปนั่นเอง และตั้งชื่อตามนักบุญวาเลนไทน์ นักบุญผู้อุปถัมภ์ของเขา คุณปู่มีสายสัมพันธ์กับ Zillergrund มากและเคยทำงานเป็นคนรีดนมที่นั่น

โบสถ์บนภูเขาได้สร้างในช่วงฤดูร้อนปี 2008 และ 2009 คนงานได้สร้างจากหินที่มีอยู่บนภูเขา บ้านไม้ที่เห็นข้างๆโสถ์นั้น ถูกสร้างขึ้นสำหรับคนงาน ซึ่งยังคงตั้งตระหง่านอยู่ข้างโบสถ์ในปัจจุบัน คนงานจะได้ไม่ต้องเดินขึ้นเขาลงเขาเพื่อมาทำงานทุกวัน แต่ะแม่ของ Obermair จะเป็นคนนำอาหารขึ้นมาให้พวกคนงานเองค่ะ

โบสถ์เล็กๆ ที่ตั้งตระหง่านอยู่เหนือร้านอาหาร “Einkehr zum Adlerblick” บนอ่างเก็บน้ำ Zillergrund นั้น จึงจัดได้ว่าเป็นศูนย์รวมหัวใจและความรักของครอบครัว Obermair ซึ่งบริหาร Adlerblick มาเป็นเวลามากกว่า 18 ปีแล้วค่ะ

การเดินทาง

การเดินทางไปโบสถ์ Kapelle zum Hl. Valentin นี้ คือต้องเดินจากสันเขื่อน Zillergründl​ Staumauer ขึ้นเขาไปเท่านั้นนะ คือส่วนมากนักเดินเขาจะเลือกมาพักที่เมือง Mayrhofen กันค่ะ เพราะเดินทางสะดวกกว่า จากเมือง Mayrhofen ไปโบสถ์ Kapelle zum Hl. Valentin นี้เราเดินทางไปได้ 3 แบบคือ

1. รถบัสสาธารณะ

จากเมือง Mayrhofen ก็นั่งจากสถานีรถไฟเมือง Mayrhofen สาย 8328 ใช้เวลา 1 ชม.​ นั่งไปลงป้ายสุดท้ายคือที่สันเขื่อน​ Zillergründl​ Staumauer จากนั้นก็เดินเขาขึ้นมาอีกประมาณ 1 ชม.ค่ะ

รถบัสไป Zillergrund รอบเช้าสุดจะออกเดินทางเวลา 07:50 น. จากสถานีรถไฟ Mayrhofen – ถึงด้านบนของเขื่อน​Zillergründl เวลา 08:47 น. ควรสามารถเช็คเวลารถ ราคาตั๋วเพื่ออัปเดตอีกครั้งที่ www.mayrhofen.at/de/stories/fahrplaene-zillertal

2. รถส่วนตัว + รถบัสสาธารณะ

ขับรถจากเมือง Mayrhofen ไปจอดรถที่ Bärenbad (Wanderparkplatz Bärenbad) แล้วรถบัสสาย 8328 ประมาณ 20 นาที ขึ้นมาที่สันเขื่อน Zillergründl​ Staumauer จากนั้นก็เดินเขาขึ้นมาอีกประมาณ 1 ชม. ค่ะ (เนื่องจากเค้าไม่อนุญาตให้ขับรถส่วนตัวเข้าไปที่เขื่อนได้ ถ้าเราขับรถส่วนตัวไป ส่วนมากจะจอดไว้ที่ แล้วนั่งรถไป หรือเดินขึ้นไปกันค่ะ)

GPS ที่จอดรถ: https://goo.gl/maps/Pij5TqFTkLaEzDWW8

3. รถส่วนตัว + เดินเขา

ขับรถจากเมือง Mayrhofen ไปจอดรถที่ Bärenbad (Wanderparkplatz Bärenbad) แล้วเดินเขา 1.30 .ชม ขึ้นมาที่สันเขื่อน Zillergründl​ Staumauer จากนั้นก็เดินเขาอีกรอบขึ้นมาที่โบสถ์ Kapelle zum Hl. Valentin ค่ะ อีกประมาณ 1 ชม. (แบบสุดท้ายนี้คือเหนื่อยสุดๆค่ะ เพราะเท่ากับว่าเราต้องเดินขึ้นเขาสองรอบ นี่คือไม่รวมที่จะต้องเดินลงเขาด้วยนะคะ )

ถ้าขับรถส่วนตัวไปจะมีค่าเข้าอุทยานด้วยนะคะ ราคา 10 ยูโรต่อคันค่ะ

GPS ที่จอดรถ: https://goo.gl/maps/Pij5TqFTkLaEzDWW8

วันเดินทาง

พวกเราสองคนเลือกแบบที่ 3 ค่ะ คือการขับรถจาก Mayrhofen ไปจอดไว้ที่ Bärenbad แล้วเดินเขาขึ้นมาที่สันเขื่อน Zillergründl​ Staumauer จากนั้นและเดินขึ้นเขาเพื่อไปโบสถ์ Kapelle zum HI. Valentin กันต่อค่ะ อยากจะบอกว่าเป็นประสบกาณ์เดินเขาที่เราสองคนจะไม่มีวันลืมเลยค่ะ เพราะอะไร มาอ่านกันค่ะ

ตอนเช้าวันนั้นเราสองคนแต่เช้า เพื่อเตรียมสัมภาระในการเดินทางครั้งอย่างตื่นเต้นค่ะ เราแต่งตัวเพื่อเตรียมเดินเขากัน และไม่ลืมที่จะเตรียมอาหารกลางวันคือแซนวิชแบบง่ายๆและน้ำอีกหนึ่งขวดใหญ่ด้วย หลังจากที่ทานอาหารเช้าและเตรียมของเสร็จแล้ว เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราสองคนก็ขับรถออกเดินทางกันเลยค่ะ

เราตั้งจีพีเอส เพื่อไปที่จอดรถ Bärenbad (GPS ที่จอดรถ: https://goo.gl/maps/Pij5TqFTkLaEzDWW8 ) ระหว่างทางที่ขับรถไป เราไม่เห็นนักท่องเที่ยวขับรถมาเยอะเท่าไหร่ นึกว่าขับรถมาผิดทางซะแล้ว ตอนหลังเราถึงรู้ว่า นักท่องเที่ยวเค้าจะนิยมนั่งรถบัสมากันค่ะ เพราะจะสะดวกกว่ามาก เนื่องจากที่เขื่อนเก็บน้ำ Zillergründl นี้ไม่สามารถขับรถส่วนตัวเข้าไปถึงที่เขื่อนได้ เราต้องขับรถไปจอดไว้ที่ แล้วนั่งรถบัสไปหรือเดินเขาขึ้นไปนั่นเองค่ะ

ก่อนที่จะถึงที่จอดรถ เราจะเจอด่านเก็บเงินเพื่อเข้าเขตอุทยานก่อนนะคะ ราคาจะอยู่ที่ 10 ยูโรต่อคันค่ะ ถ้าจากพักของเรามาที่จอดรถ ที่ Bärenbad (Wanderparkplatz Bärenbad) จะใช้เวลาขับประมาณ 30 นาที (20 กิโลเมตร)

ที่จอดรถ Bärenbad จะมีระดับความสูงอยู่ที่ 1.450 m จากระดับน้ำทะเล ที่จอดตรงนี้คือที่จอดรถที่ใกล้เขื่อนมากที่สุดแล้วค่ะ ห่างจากเขื่อนประมาณอีก 4 กม. พอขับรถมาถึงก็เริ่มเห็นรถนักเดินเขาและนักท่องเที่ยวคนอื่นๆแล้ว ค่อยชื่นใจหน่อย รถจอดเต็มเลย ที่จอดรถที่นี่ไม่ใหญ่นะคะ แต่ตอนที่เรามาถึงประมาณ 10 โมง ก็ยังพอที่จะมีที่จอดรถพอจอดได้อยู่ค่ะ โชคดีที่ตรงนี้ไม่ต้องเสียค่าที่จอดรถนะคะ

GPS ที่จอดรถ: https://goo.gl/maps/Pij5TqFTkLaEzDWW8

นักท่องเที่ยวส่วนหนึ่งพอจอดรถเสร็จแล้ว เค้าก็ไปยืนรถบัสที่ป้ายรถ ที่อยู่ไม่ไกลเท่าไหร่จากที่จอดรถ Bärenbad เพื่อนั่งต่อไปที่เขื่อนกัน โดยรถบัสสาย 8328 วิ่งทุกๆ 30 นาทีในช่วงกลางวันในช่วงฤดูร้อน แต่ความรู้สึกตอนนั้น สำหรับเราสองคนอยากจะเดินไปกันมากกว่าค่ะ เพราะจากที่ดูแผนที่แล้ว คิดว่าคงเดินไม่ไกลมาก (แต่บอกเลยว่า พวกเราคิดผิดมากกก… 555 )

เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว เราสองคนก็เริ่มเดินจากที่จอดรถตามป้ายที่เห็นใกล้ที่จอดรถค่ะ คนเดินขึ้นเหมือนเรามีน้อยมาก เห็นอยู่ไม่กี่คนเอง แต่ตอนนั้นคือยังตื่นเต้นสำหรับเส้นทางนี้อยู่ เลยไม่ค่อยเอะใจเท่าไหร่ ถ่ายรูป ถ่ายวีดีโอบรรยากาศรอบด้านอย่างตื่นเต้น ได้ยินเสียงน้ำ บอกเลยว่าชื่นใจ และสดชื่นสุดๆ ระหว่างเดินช่วงแรกๆจะเห็นตก เล็กน้ำตกน้อยระหว่างทางคือหลายที่เลย สำหรับเราคือชอบมากๆค่ะ เดินเพลิน บางช่วงก็จะมีหินเป็นบางช่วง แต่ก็ยังโอเคอยู่

หนึ่งชั่วโมงผ่านไป เริ่มล้า และเหนื่อยแล้ว ก็ยังไม่ถึงซะที

ทางก็เริ่มชันขึ้นเรื่อยๆ แต่เหมือนยังไม่เห็นว่าจะถึงสันเขื่อนซะที ณ ตอนนั้นเริ่มโมโหตัวเองที่เลือกเดินและไม่นั่งรถบัสแล้วค่ะ แต่ตอนนี้คือเปลี่ยนใจไม่ทันแล้ว ส่วนสามี เค้าก็ดูเดินปกติมาก เหมือนไม่เหนื่อยเหมือนเราเลย คืองงมากค่ะ 5555…..

Speicher Zillergründl (1850m)

ในที่สุดเราสองคนก็เดินขึ้นมาถึงเขื่อนเก็บน้ำ Zillergründl แล้วค่ะ หรือจะเรียกว่าอ่างเก็บน้ำ Zillergründl ก็ได้ค่ะ เราใช้เวลาเดินประมาณเกือบ 2.30 ชั่วโมงเลยกว่าขึ้นมาถึง คนอื่นจะเดินประมาณ 1.30-2 ชม. เพราะเราหยุดพักมากนั่นเองค่ะ บอกเลยว่าเหนื่อยมากๆ

อ่างเก็บน้ำ หรือเขื่อน Zillergründl ที่ Zillertal นี้ ใช้เวลาถึงเจ็ดปีจนถึงปี 1987 ในการสร้าง ปัจจุบันได้เก็บและมีปริมาณน้ำจำนวนมาก ไหลผ่านอุโมงค์ไปยังโรงไฟฟ้า Häusling และหลังจากการผลิตกระแสไฟฟ้าแล้ว ยังจ่ายไปยังอ่างเก็บน้ำที่ชื่อว่า Stillup ด้วยซึ่งอยู่ห่างออกไปอีก 35 กม. อีกด้วยค่ะ

วิวตรงสันเขื่อน Zillergründl นี้คือสวยมากๆค่ะ กว้าง และใหญ่มากๆด้วย น้ำสีเขียวอ่อนสวยมาก เหมือนในรูปภาพเลย ตรงบนกำแพงเขื่อนของอ่างเก็บน้ำจะเห็นร้านอาหารชื่อว่า “Einkehr zum Adlerblick” ค่ะ ซึ่งเจ้าของร้านนี้แหละที่เป็นคนสร้างโบสถ์นี้ขึ้นมา ที่กล่าวไว้ที่บทความด้านบนนั่นเอง ซึ่งถ้าเราจะขึ้นไปที่โบสถ์เลย เราก็ต้องขึ้นไปตรงร้านอาหารก่อน แล้วเดินขึ้นไปค่ะ

ที่นี่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยมากๆค่ะ ตอนเดินรู้สึกร้อนมาก เหงื่อเต็มหลังเลย พอขึ้นข้างบนสันเขื่อนแล้ว ลมแรงและอากาศก็เย็นถึงขั้นหนาวมากๆ โชคดีที่เราสองคนจะมีเสื้อแจ็คเก็ตแขนยาวอีกตัวไว้ในเป้หลังเสมอ เลยพากันหยิบมาใส่กันหนาวกันค่ะ จากนั้นพากันเดินดูและถ่ายรูปรอบๆกัน เพื่อพักเหนื่อยซักพักแล้วค่อยตัดสินใจว่าจะเดินขึ้นเขากันต่อเลยไหม หรือจะเดินไป Klein Tibet กัน

Klein Tibet

สามีบอกว่าอยากเดินไปที่ Klein Tibet ด้วย เราก็กังวลว่าจะหนักเกินไปไหม เพราะเรายังจะมีการเดินขึ้นเขากันอีกด้วยนะ แถมตอนนี้เราก็บ่ายแล้วด้วยค่ะ สุดท้ายแล้วเราสองคนก็ตกลงกันว่า เราจะเดินไปดูก่อน ถ้าเห็นว่าไกลเกินไปและ เวลาคงไม่พอแน่ๆ เราก็จะกลับกันค่ะ ก็ตกลงกันตามนั้น

จากสันเขื่อน Zillergründl ไปทาง Klein Tibet เราต้องเดินผ่านเข้าไปในอุโมงค์หินก่อนนะคะ ข้างในมีแสงสว่างเพียงพอ และใช้เวลาเดินไม่นานก็ทะลุอุโมงค์แล้วค่ะ จากนั้นก็เป็นทางเดินโล่ง ทางเดินเค้าทำดีอยู่นะคะ นักท่องเที่ยวเดินเส้นนี้เยอะ ไม่เหงาแน่นอน ทางเดินเป็นหินกรวดซะส่วนใหญ่ ทางเรียบแต่อาจมีเนินอีกเล็กน้อย วิวข้างทางคือเขื่อนสีฟ้าสวยจะอยู่ฝั่งขวามือ และฝั่งซ้ายก็จะเห็นน้ำตกแทบตลอดทางเดินเลย เป็นทางเดินที่สวยมากๆ เราถ่ายรุปตลอดทางเหมือนเดิม

กำแพงเขื่อนถึงทิเบตน้อยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง (ไปและกลับ 2 ชั่วโมง ความสูงต่างระดับที่ 180 เมตร) เราเดินมาได้ครึ่งทาง เราสองคนก็นั่งพักเพื่อทานอาหารกันค่ะ แล้วก็คุยกันว่าเราจะเอายังไงกันต่อ จะเดินต่อหรือว่าจะกลับ เพราะว่าเวลาเริ่มบ่ายมากแล้ว คิดว่าคงไม่ทันแน่ๆ

สุดท้ายแล้วเราสองคนก็เลือกที่จะไม่เดินต่อไปที่ Klein Tibet กันค่ะ เราเลือกที่จะเดินกลับไปสันเขื่อน Zillergründl เพื่อขึ้นไปดูโบสถ์กันค่ะ เพราะว่าที่พวกเรามาที่นี่กัน ก็เพราะเราสองคนอยากขึ้นไปดูโบสถ์กันนั่นเองค่ะ (เสียดายนะแต่ต้องเลือกค่ะ เพราะเวลาไม่พอจริงๆ)

ถ้าใครเดินไปจนถึง Klein Tibet แล้ว ที่นั่นจะมีร้านอาหารท้องถิ่นชื่อ Uderns Hohenau Alm (1863 ม.) เค้าจะเปิดให้บริการตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนถึงสิ้นเดือนตุลาคมค่ะ ซึ่งเค้าจะตกแต่ง ประดับดาร้านและบริเวณรอบๆร้านด้วยธงชาติ และกระดิ่งคล้ายๆ เหมือนเรากำลังอยู่ที่ธิเบต นั่นทำให้เค้าเรียกที่นี่กันว่า Klein Tibet หรือธิเบตน้อยนั่นเองค่ะ

วิวที่มองเห็นจากร้านอาหาร Adlerblick

เราเดินกลับมาที่สันเขื่อน Zillergründl อีกครั้ง เราเดินขึ้นไปในร้านอาหาร “Einkehr zum Adlerblick” ซึ่งสร้างตรงกำแพงเขื่อนของอ่างเก็บน้ำ Zillergrund เพื่อทานอาหารและนั่งพักก่อนที่จะขึ้นไปโบสถ์ Kapelle zum Hl. Valentin กันค่ะ ในร้านอาหาร เราสั่งซุป และเบียร์เย็นๆอีกสองแก้ว นั่งดูดดื่มบรรยากาศบนร้านอาหาร บอกเลยว่าคือดีมากๆค่ะ จากร้านอาหารจะเห็นอ่างเก็บน้ำแบบมุมกว้างขึ้น สวยเกินคำบรรยายจริงๆ เรานั่งพักที่ร้านอาหารกันประมาณครึ่งชั่วโมงก็เดินทางกันต่อค่ะ เสียดายจังที่มีไม่เยอะ ต้องรีบกินรีบดื่ม แล้วเดินกันต่อ

ร้านอาหาร “Einkehr zum Adlerblick” ตั้งอยู่ที่ระดับความสูงประมาณ 1,900 ม. ซึ่งตั้งอยู่ตรงกำแพงเขื่อนของอ่างเก็บน้ำ Zillergrund ค่ะ

โบสถ์ Kapelle zum HI. Valentin

จุดเริ่มต้นสำหรับการปีนเขาไปยังโบสถ์ Kapelle zum HI. Valentin นั้น ไม่อยากค่ะ หากเราเริ่มเดินเขาจากกำแพงเขื่อน ก็ให้เดินขึ้นบันไดมาที่ร้านอาหารก่อนนะคะ พอถึงด้านบน ก่อนเข้าไปในร้านจะมีป้ายบอกทางเดินเขาเพื่อขึ้นไปยังโบสถ์ Kapelle zum HI. Valentin ค่ะ เราก็เดินตามป้ายเลย

จากนั้นก็เดินตามทางไปเรื่อยๆ ช่วงแรกๆทางเดินยังโอเคอยู่นะคะ เดินง่าย ยังไม่ชันมาก แต่ไม่นานทางขึ้นก็จะเริ่มสูงชันขึ้น นอกจากนั้นจะมีน้ำตกเล็กๆระหว่างทางด้วย จึงทำให้ทางเดินแฉะ บางช่วงทางก็แคบมากๆค่ะ โชคดีที่เรามากันช่วงบ่ายมากแล้ว ทำให้ไม่มีคนเดินสวนลงมาเท่าไหร่ค่ะ เพราะทางแคบจริงๆ ถ้ามีคนเดินสวนมา ก็ไม่รู้จะเบี่ยงไปอยู่ตรงไหนเหมือนกัน และเวลาเดินพวกเราต้องระวังเป็นอย่างมากค่ะ เพราะกลัวว่าจะลื่นและเท้าอาจแพลงได้ค่ะ

เราสองคน เดินวนเป็นทางคดเคี้ยวขึ้นเขาไปเรื่อยๆ​ เริ่มเจอกับโครงเหล็ก​ขนาดใหญ่ที่เค้าใช้กั้นหิมะ เราก็ต้องเดินซอกแซกลัดเลาะขึ้นไป​ ระหว่างทางขึ้นจะเห็นวิวมุมกว้างของเขื่อนที่สวยมากๆเลย สวยสุดๆจริงๆค่ะ

เสียดายที่วันที่เราไปเป็นวันที่อากาศไม่ดีเท่าไหร่ค่ะ ฟ้ามืดเหมือนฝนจะตก

ปกติแล้วเวลาเดินคือประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ แต่เราหยุดถ่ายรูปเป็นระยะๆ และหยุดพักเหนื่อยบ้าง ใช้เวลาเดินขึ้นเกือบ 1.30 ชั่วโมงค่ะ พอเราขึ้นมาถึงข้างบน เราคือดีใจมากที่ทำสำเร็จ บอกเลยว่าเหนื่อยมากๆค่ะ เราสองคนอยู่บนนี้แค่ 10-15 นาทีเองค่ะ ก็ต้องรีบลงแล้ว พากันรีบถ่ายรูป ถ่ายวีดีโอกัน เพื่อเก็บเป็นความทรงจำไว้ ก่อนที่จะเดินทางกลับ เพราะเราเริ่มกลัวว่าจะทำเวลาไม่ทัน ไหนจะต้องเดินลงเขาไปที่จอดรถอีก ซึ่งอาจต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงเลย

เราสองคนคุยกันว่าจะนั่งรถบัสกลับไปที่จอดรถกันดีกว่า เพราะสามีกลัวว่าฝนจะตกและเย็นแล้ว กว่าจะเดินถึงที่จอดรถคือมืดแน่ๆ ดังนั้นเพื่อให้ทันรถบัสคันสุดท้าย ขาลงเขาพวกเราพยายามที่จะเดินกันเร็วขึ้นกว่าขาขึ้นค่ะ ซึ่งเราก็ทำได้ และแล้วเราก็มาถึงก่อนที่รถบัสคันท้ายจะมาถึงพอดีค่ะ โชคดีมากๆ

สุดท้ายแล้วบอกเลยว่าเป็นวันที่ภูมิใจในตัวเองมาก เราทำได้ ถึงแม้ว่าจะเป็นวันที่เราสองคนเหนื่อยมากกกก ก ไก่ล้านตัว 555 เพราะเดินกันเยอะมาก น่องเราเจ็บเลย ได้แต่หวังว่าพักผ่อนและผ่านคืนนี้ไปแล้วคงดีขึ้นค่ะ ไม่งั้นคงแย่แน่ๆ เพราะพรุ่งนี้เรามีแพลนจะไปเดินเขากันอีกที่กันด้วยค่ะ คือเพื่อขึ้นไปถ่ายรูปกับ สะพานแขวนที่มีวิวสวยมากๆ และเป็นที่ถ่ายรูปยอดนิยมอีกที่เลย รอติดตามกันนะคะ

****** ข้อแนะนำ คือถ้าใครอยากมาเดินเขาที่นี่ ให้หาที่พักที่เมือง Mayrhofen นะคะ แล้วให้นั่งรถบัสมาจะสะดวกกว่าค่ะ คือนั่งมาลงที่สันเขื่อนแล้วค่อยเดินขึ้นไปดูโบสถ์กัน พอลงมาถ้ามีเวลาพอค่อยเดินไปเที่ยวที่ธิเบตน้อยก็ได้ค่ะ ข้อควรระวังคือ อย่าลืมเช็คดูเวลารถบัสเวลากลับด้วยนะคะ