thai driving licence

แชร์ประสบการณ์ พาสามีต่างชาติไปทำเทียบใบขับขี่ไทย

Blog & Review ความรู้ทั่วไป

เพิ่งพาสามี (ชาวต่างชาติ) ไปทำเรื่อง เทียบใบขับขี่ไทย มาแบบสด ๆ ร้อน ๆ เลยค่ะ เลยอยากมาแชร์เผื่อใครกำลังจะไปทำ จะได้เตรียมตัวให้พร้อม ไม่เสียเวลาค่ะ

เอกสารที่ต้องเตรียม (เอาไปให้ครบ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาวิ่งกลับบ้าน)

1. ใบขับขี่จากประเทศต้นทาง

  • ต้องเป็น ตัวจริง ที่ยังไม่หมดอายุนะ
  • ถ้าไม่ใช่ภาษาอังกฤษ ต้องแปลเป็นอังกฤษหรือไทย และไปรับรองจากสถานทูตหรือกระทรวงการต่างประเทศก่อนค่ะ
  • หรือใช้เป็นใบขับขี่ International ก็ได้ค่ะ จะได้ไม่ต้องไปแปล

2. พาสปอร์ต + วีซ่า

  • สำเนาหน้าพาสปอร์ต
  • สำเนาหน้าวีซ่าหรือเอกสารอนุญาตให้อยู่ในไทย

3. ใบรับรองที่อยู่ในไทย (Address Certificate)

  • ขอได้จาก ตม. (สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง)
  • หรือใช้ทะเบียนบ้านสีเหลืองที่มีชื่ออยู่ก็ได้ (กรณีชาวต่างชาติที่มีทะเบียนบ้านสีเหลืองแล้ว)

4. ใบรับรองแพทย์ (ต้องออกภายใน 1 เดือน)

  • ขอได้จากโรงพยาบาลหรือคลินิกทั่วไป (ใช้เวลาประมาณ 5-10 นาที)

💡 ถ้าจะทำใบขับขี่จักรยานยนต์ด้วย 👉 เตรียมเอกสาร 2 ชุด (เพราะต้องแยกทำใบขับขี่รถยนต์กับจักรยานยนต์)

เอกสารครบแล้ว แนะนำให้ “อบรมออนไลน์” ไว้เลยค่ะ เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว อบรมออนไลน์มาก่อนผ่านเว็บ https://www.dlt-elearning.com

แนะนำให้จองคิวออนไลน์ไปด้วยค่ะ ที่ https://gecc.dlt.go.th/dltsmartqueue/dlt-Smartqueue


ขั้นตอนการทำที่สำนักงานขนส่ง

📍 1. ยื่นเอกสาร
📍 2. ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย
✅ ทดสอบสายตาบอดสี
✅ ทดสอบสายตาทางลึก
✅ ทดสอบสายตาทางกว้าง
✅ ทดสอบการตอบสนองของเท้า

*** ต้องผ่านการทดสอบทุกพาสนะคะ ไม่เช่นนั้นต้องมาทำการทดสอบใหม่ในวันหลังค่ะ

📍 3. อบรมเกี่ยวกับกฎจราจร (ประมาณ 1 ชั่วโมง)

  • ถ้าอบรมออนไลน์มาก่อน ผ่านเว็บ https://www.dlt-elearning.com จะทำให้ประหยัดเวลาขึ้นค่ะ
  • ถ้ายังไม่ได้อบรม ต้องเข้าอบรมที่สำนักงานขนส่งค่ะ

📍 4. ชำระค่าธรรมเนียม + รับใบขับขี่ไทย

ค่าธรรมเนียม (โดยประมาณ)

📌 ใบขับขี่รถยนต์ (2 ปี) – 205 บาท
📌 ใบขับขี่จักรยานยนต์ (2 ปี) – 105 บาท

ช่วงแรกเราจะได้ใบขับขี่ชั่วคราวแบบ 2 ปีมาก่อนนะคะ พอครบ 2 ปีไปต่ออีกรอบ ถึงจะได้แบบ 5 ปีมาค่ะ
📌 ใบขับขี่สากล (ถ้าต้องการเดินทางไปประเทศอื่น) – 505 บาทค่ะ


💡 คำแนะนำจากประสบการณ์จริง

อบรมออนไลน์มาก่อน จะช่วยให้เร็วขึ้นมาก ไม่ต้องรออบรมที่ขนส่ง
ไปแต่เช้า คิวจะได้ไม่ยาว แนะนำให้ไปก่อนเปิดทำการ แต่อยากแนะนำให้จองคิวออนไลน์ไปเลยค่ะ จะสะดวกกว่า
เตรียมเอกสารให้ครบ ถ้าอยากทำทั้งรถยนต์ + จักรยานยนต์ เตรียม 2 ชุดไปเลย
บางสำนักงานขนส่งอาจมีรายละเอียดต่างกัน ลองเช็กข้อมูลของสาขาที่จะไปก่อนนะคะ

🚀 สรุปง่าย ๆ คือ ถ้าเอกสารครบ + อบรมออนไลน์มาแล้ว = ไปขนส่งแป๊บเดียวก็เสร็จแล้วค่ะ! ตอนนี้สามีได้ใบขับขี่ใหม่แบบแฮปปี้มากๆค่ะ