วันนี้จะเล่าประสบการณ์ การได้มาซึ่งสัญชาติเยอรมัน ทำได้อย่างไร รวมทั้งเอกสารที่ต้องใช้ มีอะไรบ้างค่ะ
ทำไมถึงอยากยื่นเรื่องและขอสัญชาติเยอรมัน
เริ่มแรก เราไม่ได้อยากได้สัญชาติมากเท่าไหร่ เพราะตอนอยู่เยอรมันมาได้ 3 ปีแล้วก็ได้ Unbefristet Aufenthaltstitel แล้ว ซึ่งคิดว่าไม่จำเป็นค่ะ แต่มามีปัญหาตอนที่พาสปอร์ตหมดอายุ และทำให้ Aufenthaltstitel หมดอายุไปด้วย คือต้องไปทำใหม่เหมือนกัน แถมต้องเสียเงินใหม่อีกรอบ รู้สึกมีความยุ่งยากจังเลย
นอกจากนั้นเรากับสามีก็เป็นคนชอบเดินทางท่องเที่ยวอยู่แล้ว ทำให้มีอุปสรรคไปด้วย เพราะเวลาเดินทางไปที่ต่างประเทศต่างๆ ต้องใช้วีซ่า เลยคิดว่าถ้าเรามีพาสปอร์ตเยอรมัน อาจทำให้ชีวิตการเดินทางของเราง่ายขึ้น เพราะพาสปอร์ตเยอรมันเองก็ใช้เดินทางโดยไม่ต้องใช้วีซ่าได้หลายประเทศเลยค่ะ
คุณสมบัติ และเงื่อนไขการขอสัญชาติเยอรมัน
นี่คือเงื่อนไขการขอสัญชาติโดยประมาณนะคะ กรณีของเราที่แต่งงานกับคนเยอรมัน และอยากยื่นเรื่องขอสัญชาติเยอรมันค่ะ
- แต่งงานกับสามีหรือภรรยาชาวเยอรมันของคุณอย่างน้อยสองปี สามีหรือภรรยาของคุณมีสัญชาติเยอรมันมาอย่างน้อยสองปี ในขณะที่แปลงสัญชาติ
- อยู่เยอรมันติดต่อกันเกิน 3 ปี
- มีความสามารถเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวได้ และต้องไม่เคยได้รับความช่วยเหลือด้านการเงินจากรัฐ เช่น เงินตกงานแบบ Hartz IV. เป็นต้น (แต่ถ้าใครไม่ได้ทำงาน เป็นแม่บ้านอย่างเดียว ก็สามารถขอได้เหมือนกันค่ะแต่ต้องใช้เอกสารของสามีประกอบด้วย)
- สอบ Einbürgerungstest ผ่านแล้ว มีความรู้เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยทางกฎหมาย สังคม และสภาพความเป็นอยู่ในประเทศเยอรมนี
- มีความรู้ภาษาเยอรมันเพียงพอ (ขั้นต่ำ B1 ) หรือได้รับความรู้ภาษาเยอรมันเพียงพอจากการเข้าเรียนในโรงเรียนที่เยอรมัน
- มีวีซ่าถาวร (unbefristetes Aufenthaltsrecht) ข้อนี้แล้วแต่เขตนะคะ บางเขตอาจจะไม่ต้องมีวีซ่าถาวรก็ได้
- ไม่ต้องโทษ หรือมีความผิดทางกฎหมาย
- ต้องยอมรับหลักกฎหมายพื้นฐานแบบประชาธิปไตยเสรีของประเทศเยอรมนี
เอกสารในการยื่นขอสัญชาติเยอรมัน
เอกสารในส่วนของเรา
- ใบยื่นคำร้องขอสัญชาติ Antrag แบบฟอรม์ที่กรอกเสร็จเรียบร้อยแล้ว
- บัตร Aufenthaltstitel
- Passport พาสปอร์ต
- Heiratsurkunde ทะเบียนสมรส (แปลเป็นภาษาเยอรมัน)
- Geburtsurkunde ใบเกิด (แปลเป็นภาษาเยอรมัน)
- Zertifikat Integrationskurs ใบประกาศผลสอบ B1
- ใบประกาศผลสอบ Einbürgerung ( หรือ Test Leben in Deutschland)
- Arbeitsvertrag สัญญาจ้างงาน
- Einkommen Nachweisen ใบรับรองรายได้ และสลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3 ดือน
- Pass- Foto รูปถ่ายสำหรับติดบัตร หรือพาสปอร์ต
- Lebenslauf ประวัติส่วนตัว(อย่างละเอียด) อันนี้เราเอาใบ Lebenslauf ที่เราเคยไว้ใช้สมัครงานเลยค่ะ
เอกสารในส่วนของสามี
- Passport
- Einkommen Nachweisen ใบรับรองรายได้ และเงินเดือน ย้อนหลัง 3 ดือน
- ใบ Rentenversicherung mit Nachweis des Versicherungsverlaufs
เอกสารที่กล่าวมาทั้งหมด เราส่งทุกอย่างเป็นแบบถ่ายเอกสารไปนะคะ ไม่ได้ส่งเอกสารตัวจริงไป ยกเว้นแบบฟอร์มและรูปภาพเท่านั้นที่เป็นตัวจริง
พอเราเตรียมเอกสารทุกอย่างพร้อมแล้ว ก็ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ทางอีเมล์เพื่อขอยื่นเรื่อง แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้อีเมล์ตอบมาบอกว่า เนื่องจากอยู่ในช่วง covid ระบาด เพราะฉะนั้นให้เราส่งเอกสารไปทางไปรษณีย์ได้แทนค่ะ ถ้าเค้าตรวจสอบเสร็จเมื่อไหร่ หรือขาดเอกสารตัวไหน จะติดต่อไปอีกที
เราเอาเอกสาร เดินไปหย่อนในตู้ไปรษณีย์เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2021 ค่ะ จากนั้นก็รอ การตอบกลับของเจ้าหน้าที่ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่
8 เดือนผ่านไป….วันที่ 4 ตุลาคม 2021 (รอนานมากๆ ก็ได้รับจดหมายฉบับแรกค่ะ ) ทางเจ้าหน้าที่ส่งจดหมายมาบอก ให้โอนเงินค่าสมัครค่ายื่นเรื่องขอสัญชาติเยอรมัน คือราคา 255 ยูโร
1 ธันวาคม 2021 เราได้รับจดหมายมาจากอีกรอบเพื่อให้กรอกข้อมูลเกี่ยวกับการยอมรับ กฎระเบียบ ข้อกฎหมายของเยอรมัน และการและไม่มีส่วนร่วมในการเป็นผู้ก่อการร้ายและหัวรุนแรงต่างๆ ตรงนี้เราตอบ Nein หมดค่ะ
วันศุกร์ที่ 28 มกราคม 2022 ได้จดหมาย ว่าใบเกิดของเราได้ทำเสร็จแล้ว ให้เราโทรเพื่อทำการนัดหมายทางโทรศัพท์ เพื่อที่จะเข้าไปรับใบเกิด ค่ะ
วันที่ไปรับสัญชาติ
หลังจากนั้นวันที่ 14 กุมภาพันธ์ (ครบ 1 ปีเต็มที่ยื่นเรื่อง) ก็เป็นวันที่เราได้นัดเพื่อไปรับใบเกิด การเป็นคนเยอรมันโดยสมบูรณ์ พร้อมเอกสารที่ต้องนำไปด้วยคือ
- Passport พาสปอร์ต (ตัวจริง)
- Aufenthaltstitel (ตัวจริง)
- ใบสลิปเงินเดือน (เดือนล่าสุด)
ในวันนั้น เจ้าหน้าที่จะอธิบาย เกี่ยวกับสิทธิต่างๆของการเป็นคนเยอรมัน และเจ้าหน้าที่ก็ให้เราอ่านคำปฏิญาณตน แบบเสียงดังชัดเจน
Ich erkläre feierlich, dass ich das Grundgesetz und die Gesetze der Bundesrepublik Deutschland achten Und alles unterlassen werde was ihr Schaden könnte.
จากนั้นก็เซ็นชื่อ ณ วินาทีนั้นยอมรับว่ามือสั่นเลยตอนอ่าน ตื่นเต้นที่การได้เป็นคนเยอรมันโดยสมบูรณ์ค่ะ
ในตอนท้ายเจ้าหน้าที่บอกว่าใบเกิดนี้ จะมีได้แค่ใบเดียวเท่านั้นถ้าเกิดขาด หรือหาย ไม่สามารถที่จะมีใบใหม่ได้ แต่เขาอาจจะออกไปรับรองให้เท่านั้น เพราะฉะนั้นห้ามทำขาดหรือทำหายโดยเด็ดขาด
ส่วนบัตร Aufenthaltstitel เค้าจะเก็บไป เพราะไม่ต้องใช้อีกต่อไป เพราะถือว่าเราเป็นประชาชนของที่นี่แล้วค่ะ Passport และใบสลิปเงินเดือนเค้าให้คืนมา หลังจากนั้นก็เรานัดทางอำเภอ เพื่อทำบัตรประชาชนและพาสปอร์ตเยอรมันต่อไปค่ะ
การทำบัตรประชาชนและพาสปอร์ตเยอรมัน
สถานที่ยื่นขอทำพาสปอร์ตและก็บัตรประชาชนเยอรมันได้ที่ Bürgeramt ในเมืองที่เราอยู่ค่ะ
เอกสารมีอะไรบ้าง
- Einbürgerungsurkunde ใบเกิดเยอรมัน
- Deutsche Personenstandsurkunde (Geburts-Heiratsurkunde), oder internatinale Geburtsurkunde vom Heimatland, oder Urkunde des Heimatlandes mit Übersetzung (ggf. Apostille/Legalisation)
- Passbild (biometrietauglich)
ปล. แนะนำว่าควรเอาพาสปอร์ตไทยไปด้วยค่ะ เพราะว่าเจ้าหน้าที่เขาต้องการเช็ค identify เราด้วยเอกสารที่มีรูปภาพของเรา เพราะเราไม่มี Aufenthaltstitel แล้ว
ค่าธรรมเนียม
บัตรประชาชน
ค่าธรรมเนียม 37 ยูโร ถ้าบุคคลที่ขออายุมากกว่า 24 ปี (แบบ 10 ปี) 22,80 ยูโร อายุต่ำกว่า 24 ปี (แบบ 6 ปี)
ทําพาสปอร์ต
ค่าธรรมเนียม 60 ยูโร ถ้าอายุมากกว่า 24 ปี (แบบ 10 ปี) 37,50 ยูโร ถ้าอายุต่ำกว่า 24 ปี (แบบ 6 ปี)
ระยะเวลาดำเนินงานประมาณ 3-4 สัปดาห์หลังจากที่ยื่นขอทำเรื่อง ส่วนตัวรอเกือบ 3 สัปดาห์ค่ะ ก็มีจดหมายเกี่ยวกับ pin punk มา แต่เราไม่ได้ทำอะไรหรือลงทะเบียนอะไรนะคะ พอตอนเราไปรับพาสปอร์ตกับบัตรเจ้าหน้าที่เขาก็ถามเราว่า ได้รับจดหมายเกี่ยวกับ Pin และ Punk ไหมเราก็บอกไปว่าเราได้รับ แค่นั้นค่ะ ตรงจุดนี้ไม่มีผลอะไร
วันที่ไปรับพาสปอร์ต และบัตรประชาชนเยอรมัน
ต้องทำการนัดก่อนก่อนเข้าไปรับค่ะ วันที่ไปรับสิ่งที่สิ่งที่ควรนำเอาไปด้วยคือพาสปอร์ตไทย
ข้อดี ข้อเสียของการขอสัญชาติเยอรมัน
ข้อดีคือ
- กลับไปอยู่เมืองไทยได้นานเท่าที่ต้อง ไม่ต้องกังวลเรื่องวีซ่าเข้าเยอรมัน
- มีทางเลือกว่า จะอยู่ที่ไหนดีสำหรับเรา
- พาสปอร์ตเยอรมันได้รับการยอมรับจากประเทศต่างๆ มากกว่าพาสปอร์ตไทย และใช้เดินทางเข้าได้หลายประเทศไม่ต้องทำวีซ่า
- ได้รับสิทธิทุกอย่างเหมือนคนเยอรมันคนหนึ่งไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้ง หรืออื่นๆ งานบางอย่างที่ต่างชาติทำไม่ได้เช่นการรับราชการเป็นต้น
ข้อเสียคือ
- ในการขอสัญชาตินี้ใช้เอกสารเยอะ และใช้เวลา ในบางเขตอาจใช้เวลาเป็นปี หรือปีกว่าเลย อย่างเช่นเขต Baden-Württemberg ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 9 เดือนขึ้นไปค่ะ
อย่างไรก็ดี ความเห็นส่วนตัวเรารู้สึกว่าการมี 2 สัญชาติมีแต่ข้อได้เปรียบ ถ้ามีโอกาสเราว่าควรยื่นเรื่องขอไว้ก็ดีนะ เพราะในอนาคตเราก็ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรค่ะ
เอกสารและระยะเวลาในการขอขึ้นอยู่กับเขตที่เราอยู่นะคะ บางคนอาจจะใช้เอกสารน้อยกว่าหรือเยอะกว่าก็ได้ และระยะเวลาอาจจะเร็วกว่าก็ได้ ทางที่ดีถ้าใครต้องการที่จะยื่นเรื่องขอสัญชาติ ควรที่จะเข้าไปในสอบถามเจ้าหน้าที่ ในเมืองที่เราอยู่ดีกว่าะคะ ว่าต้องการเอกสารอะไรบ้างเป็นการดีที่สุดค่ะ