dresden

ปั่นจักรยานเที่ยวเมือง Dresden

ท่องเที่ยว

เมือง Dresden เป็นเมืองที่สวย และไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวเยอรมัน เพราะมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์มากเลยค่ะ วันนี้เราจะพาทุกคนปั่นจักรยานไปเที่ยว พร้อมไปดูจุดถ่ายรูปสวยๆกันค่ะ

ปกติแล้วพวกเราจะขับรถมาเที่ยวที่เดรสเดนกันค่ะ แต่เนื่องด้วยวันหยุดยาว หลายวันที่เยอรมัน และเราได้มีโอกาสมาเยี่ยมพ่อแม่สามีที่เมือง ไลป์ซิกกัน เลยมีเวลาหากิจกรรมทำกัน เราเลยเสนอที่จะมาปั่นจักรยานกันมาที่เมืองเดรสเดนกันดีกว่า เพราะเคยได้ยินสามีพูดว่า ถ้ามีโอกาสอยากมาปั่นจักรยานเลียบแม่น้ำ Elbe (แม่น้ำเอลบ์) ที่เมืองเดรสเดนซักครั้ง นั่นแหละเลยถือโอกาสนี้ทำสิ่งที่อยากทำดีกว่า

แต่พอเรามาคุย คิดว่าถ้าจะปั่นจากเมืองไลป์ซิกมากันก็ไกลไป เราสองคนยังไม่ชำนาญและแข็งแรงพอที่จะปั่นแบบไกลๆ ขนาดนั้นและนอกจากนั้นจักรยานที่เราสองนำมาด้วยก็เป็นจักรยานคันเล็กด้วย ที่ไว้ปั่นระยะสั้นๆ หรือปั่นในเมืองเท่านั้นด้วยค่ะ

จากนั้นก็เลยตกลงที่จะขับรถมาที่ Schloss Pillnitz เป็นจุดเริ่มต้นกันดีกว่า เพราะดูจากในแผนที่แล้ว ก็ไม่ไกลจนเกินไปด้วย ระยะ ทางจาก Schloss & Park Pillnitzไปเมืองเดรสเดนก็ประมาณ 13-14 กิโลเมตร แค่นั้นเองค่ะ

ด้านนอก Schloss & Park Pillnitz

ตอนเช้าเราสองคนรีบออกมาแต่เช้า และห่ออาหารเช้ามาทานด้วย เมนูก็เหมือนๆเดิมค่ะ เพราะสามีเป็นคนชอบทานผักและผลไม้มาก เพราะฉะนั้นอาหารที่เรานำมาด้วยก็จะเป็นขนมปัง ผักสดและผลไม้ตามฤดูกาล อะไรประมาณนั้นค่ะ 555 🙂

พอมาถึงก็จอดรถไว้ที่จอดรถฟรี แต่เราสองคนมารู้ทีหลังว่าที่เราสองคนจอดรถไว้นั้น เป็นที่จอดรถของพนักงานที่ทำงานที่ Schloss Pillnitz นั่นเอง เลยฟรีค่ะ เราไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะ เพราะไม่มีป้ายบอกนั่นเอง

จุดถ่ายรูปที่ 1 Schloss & Park Pillnitz

พอเราปั่นจากที่จอดรถมาถึงหน้าปราสาท Schloss & Park Pillnitz ก็พากันไปซื้อตั๋วเพื่อเข้าไปข้าในกันค่ะ แต่เราจะเลือกตั๋วที่เดินเที่ยวในสวนข้างหน้าก็พอ เพื่อถ่ายรูปด้านนอกอย่างเดียว ดูราคาแล้วไม่แพงด้วย ราคา 3 ยูโรค่ะ

ตรงท่าเรือ Schloss & Park Pillnitz เราจะปั่นจักรยานผ่านจุดนี้ไปเดรสเดนกันค่ะ

แต่ก็มีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น คือ เราสองคนลืมเอาที่ล็อคจักรยานมากันค่ะ!!! แล้วเค้าห้ามเอาจักรยานเข้าไปโดยเด็ดขาด ถึงแม้ว่าจะจูงก็ตาม คือต้องล็อคไว้ข้างนอกอย่างเดียวเลย สามีบอกไม่อยากเสี่ยงที่จะจอดจักรยานไว้ถ้าไม่มีที่ล็อคเนาะ เพราะกลัวหาย เราสองคนเลยต้องตัดใจที่จะคืนตั๋ว เอาเงินคืน แล้วไม่เข้าไปดีกว่า ตอนที่เราไปคืนตั๋ว เราก็บอกพนักงานเหตุผลที่เราต้องคืนตั๋วไปตามความจริง เค้าก็เข้าใจนะ ไม่มีปัญหาอะไร

พอไม่ได้เข้าปราสาทแล้ว เราสองคนก็ปั่นจักรยานกันไปเมือเดรสเดนกันต่อเลย อย่างที่บอกว่าระยะทางไปประมาณ 13-14 กิโลเมตร แต่บอกเลยว่าช่วงจาก Schloss Pillnitz 8-9 กิโลเมตรแรกนั้น มีทั้งถนนดีและไม่ดีปนกันไป แต่ระหว่างทางก็ไม่ถึงกับแย่นะ เพราะวิวสวยตลอดทาง แต่พอถึงสะพาน Plaues Wunder แล้ว ถนนหลังจากสะพานนั้นไปคือดีมาก บรรยากาศดีสุดๆ ถนนเรียบและสวยตลอดทาง

จุดถ่ายรูปที่ 2 สะพาน Plaues Wunder Dresden หรือ Blaues Wunder

Blaues Wunder นี้ เป็นชื่อที่ไม่เป็นทางการของสะพาน Loschwitzer ค่ะ ซึ่งสะพานนี้จะเป็นหนึ่งในสะพานข้ามแม่น้ำเอลบ์ในเมืองเดรสเดน ที่เชื่อมในเขต Blasewitz ทางฝั่งซ้ายกับ Loschwitz ทางฝั่งขวาค่ะ และสะพานก็อยู่ไมไกลจาก Bergbahnen หรือ บาคนอาจจะเรียกว่า Schwebebahn คือรถรางขึ้นเขานั่นเอง

ที่อยู่ของสะพาน Loschwitzer Brücke, 01326 Dresden

ที่อยู่ของ Schwebebahn Pillnitzer Landstraße 5, 01326 Dresden

พอถึงสะพาน เราตัดสินใจที่จะข้ามสะพานเพื่อไปปั่นด้านหนึ่งกันค่ะ และตอนกลับถึงจะปั่นอีกฝั่ง เพราะเราจะได้เห็นวิวทั้งด้านนั่นเอง ข้ามสะพานมาได้นิดหนึ่ง เราก็รู้สึกหิวกันแล้ว เลยตัดสินใจที่จะพักทานอาหารที่เราเอาติดมาด้วย ข้างริมน้ำ ใกล้สะพาน ซึ่งบรรยากาศดีมากๆ

วิวจากบนสะพาน จะเห็นทางที่เราพึ่งปั่นนมาเพื่อซักครู่นี้ค่ะ
วิวจากบนสะพาน
จอดพักทานอาหารกันค่ะ

จุดถ่ายรูปที่ 3 Schloss Albrechtsberg Dresden / Lingnerschloss / Hotel Schloss Eckberg

พักเสร็จเราก็เดินทางกันต่อ จากสะพานมาตัวเมืองเดรสเดนนี้ ประมาณ 5 กิโลเมตรกว่าๆ ไม่ไกลค่ะ แถมยังมีจุดให้หยุดถ่ายรูปหลายจุดเลย เราสองคนก็ปั่นไปหยุดไปตลอดค่ะ แต่ก่อนที่จะถึงในตัวเมืองของเดรสเดน ระหว่างทางสะพานเราปั่นมาแค่ 2 กิโลเมตรก็จะเจอเหมือนปราสาท 3 ปราสาทอยู่ใกล้ๆกัน แต่มารู้ทีหลังว่าไม่ใช่ปราสาททั้งหมดค่ะ เพราะตึกที่เป็นสีเหลืองๆนั้นคือโรงแรมค่ะ นั่นคือ Hotel Schloss Eckberg หลังจากนั้นก็จะเป็นปราสาท Lingnerschloss และ Schloss Albrechtsberg Dresden ที่อยู่ติดๆกัน

Schloss Albrechtsberg Dresden จะอยู่ทางด้านซ้ายมือสุดของรูปนะคะ
ขวามือที่คล้ายปราสาทออกจะสีเหลืองๆนี้เป็นโรงแรมนะคะ ชื่อว่า Hotel Schloss Eckberg จอดถ่ายรูปกันค่ะ นี่คือข้อดีของการปั่นจักรยานเที่ยว เพราะเราจะจอด จะพักตอนไหนก็ได้ ตามใจเรา
Lingnerschloss

จุดถ่ายรูปที่ 4 Sächsische Staatskanzlei im Regierungsviertel

อีกแค่หนึ่งกิโลกว่าๆก่อนถึงเมืองเดรสเดนเราก็เห็นตึกเด่นอีกตึกหนึ่งที่อยู่อีกฝั่ง ที่สวยเด่นเห็นมาแต่ไกล ทำให้ต้องหยุดเพื่อถ่ายรูปอีกครั้ง ตึกตรงนี้คือ Sächsische Staatskanzlei im Regierungsviertel นั่นเอง

จุดถ่ายรูปที่ 5 ในตัวเมือง Dresden

ไม่นานเราก็ถึงในเมืองกันแล้วค่ะ พวกเราพากันเดินเล่นถ่ายรูปรอบๆ เนื่องจากยังอยู่ในช่วงโควิดระบาดอยู่ จะเห็นได้ว่านักท่องเที่ยวน้อยมากๆ ทำให้เราถ่ายรูปได้สบายๆ ไม่ติดคนอื่นค่ะ จากนั้นก็ข้ามสะพานไปอีกฝั่งหนึ่ง เพื่อไปถ่ายรูป และจะได้เดินทางกลับกันจากฝั่งนั้นเลย จะทำให้เราได้เห็นวิวของเมืองเดรสเดนทั้งฝั่งด้านค่ะ

Fürstenzug ภาพวาดความยาว 102 เมตร ที่เป็นที่จุดท่องเที่ยวยอดนิยมอีกที่ค่ะ เป็นภาพวาดสมัย ตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 16 บนกระเบื้องพอร์ซเลนมากถึงประมาณ 23,000 ชิ้น
รูปปั้น Friedrich August

ในตัวเมืองของเมือเดรสมีจุดท่องเที่ยวและน่าสนใจหลายที่เลย แต่เนื่องจากเรามาบ่อยแล้วเลยตัดสินใจไม่เข้าไปในตัวเมืองกันค่ะ เราเดินดูแต่รอบนอกกัน ถ่ายรูปกันนิดหน่อยก็พากันข้ามสะพานไปทางด้านเมืองใหม่ อีกฝั่งกันเลยค่ะ

จุดถ่ายรูปที่ 6 บนสะพาน Augustusbrücke

ตรงจุดนี้คือ ถ่ายจากข้างบนสะพาน Augustusbrücke นะคะ ตอนที่เรามาสะพาน Augustusbrücke ยังซ่อม และปรับปรุงอยู่เลย ทำให้เราถ่ายรูปได้ไม่เยอะ แต่ที่จริงบนสะพานมีจุดถ่ายรูปหลายมุมเลย และจุดสวยๆทั้งนั้น ทั้งด้านซ้ายและขวาเลยค่ะ

จุดถ่ายรูปที่ 7 Canaletto Blick 

พอข้ามสะพาน Augustusbrücke มาแล้ว เราก็ตรงมาถ่ายรูปตรงจุดถ่ายรูปที่สวย และมีชื่อเสียงอีกที่ เพราะว่าตรงนี้จิตรกรชื่อดังที่ชื่อว่า Canaletto ได้มาวาดรูปและบอกว่า มุมนี้คือมุมที่สวยที่สุดของเมืองนั่นเอง หรือชื่อเต็มๆคือ Bernardo Bellotto ตรงจุดนี้ ก็จะมีหนุ่มสาวมานั่งปิกนิกแถวนี้กันเยอะค่ะ เป็นจุดถ่ายรูป และชมวิวเมืองที่สวย ไม่ควรพลาด

จุดถ่ายรูปที่ 8 Palaissommer

จุดถ่ายรูปตรงนี้จะเลยจากจุดชมวิว Canaletto Blick มาหน่อย ตรงนี้คือ Palaissommer ค่ะ ที่อยู่คือ Palaispl 11, 01097 Dresden ตรงนี้หน้าสวนข้างหน้าร่มรื่นมากๆ เห็นนักเรียน นักศึกษา มานั่งอ่านหนังสือและนั่งพักผ่อนกันเยอะเลย

จุดถ่ายรูปที่ 9 Festplatz an der Elbe

ตอนนีั้ปั่นกลับกันแล้วค่ะ ตามถนนแต่เรายังอยู่ฝั่งเมืองเก่าอยู่นะคะ เราปั่นจนเลยสะพานมาแล้วหน่อยหนึ่งก็เจอจุดถ่ายรูปมุมนี้ค่ะ มุมนี้คือ Festplatz an der Elbe ค่ะ ใกล้ๆ Filmnächte am Elbufer ตรงแถวนี้มุมนี้ก็สวยมากๆ เพราะถ่ายไปยังฝั่งเมืองใหม่คือสวยมากๆ เป็นมุมพาโนรามาได้เลย และจัดคอนเสริตหรืองานค่ำคืนแห่งภาพยนต์ริมแม่น้ำเอลบ์แทบจะทุกๆปีค่ะ

ตรงมุมนี้จะเห็น Die Dresdner Frauenkirche ชัดเจนค่ะ

และนี่ก็คือหนึ่งวันกับการปั่นจักรยานมาเที่ยวเมืองเดรสเดน เมืองสวยในเขต แซกโซนี ค่ะ เอาไอเดียการเที่ยวเมือเดรสเดนอีกแบบมาฝาก เผื่อใครอยากลองมาปั่นจักรยานเที่ยวดูค่ะ บอกเลยว่าจะชอบ เพราะบรรยากาศดีจริงๆ แถมเลียบแม่น้ำเอลบ์ ถนนก็เป็นเลนสำหรับปั่นจักรยานโดยเฉพาะด้วย ถนนก็สวย เรียบตลอดค่ะ ไม่มีเนินเลย ว่าแล้วได้มาเที่ยวเมือเดรสเดนก็ลองมาปั่นจักรยานเที่ยวกันดูนะคะ