เมืองบอนน์ นอกจากจะเป็นเมืองเก่าแก่ของประเทศเยอรมนี และยังเป็นบ้านเกิดของบีโธเฟนด้วยแล้ว ที่นี่ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายอย่าง และหนึ่งในนั้นที่เป็นที่รู้จักและโด่งดังมากๆนั่นก็คือ คือถนนที่เป็นอุโมงค์ดอกไม้นั่นเองค่ะ ถนนอุโมงค์ดอกไม้นี้ เป็นที่รู้จักและโด่งดังมาก ทุกปีจะมีนักท่องเที่ยวมาจากที่ต่างๆทั่วโลกมาเยี่ยมชมกันเยอะมาก และดูจะมากขึ้นทุกๆปีค่ะ
Cherry Blossom หรือเรียกว่า Japanische Kirschblüte ในภาษาเยอรมัน เป็นดอกไม้ที่ออกดอกในช่วงฤดูใบไม้ผลิเท่านั้น แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าวันไหน เพราะขึ้นอยู่กับอากาศในปีนั้นๆค่ะ ว่าอากาศอุ่นเร็วขึ้นหรือเปล่า เพราะถ้าอากาศอุ่นเร็วก็สามารถทำให้ดอกเชอร์รี่นี้บานเร็วขึ้นด้วยค่ะ แต่ส่วนมากจะเป็นต้นๆ 2 อาทิตย์แรกของเดือนเมษายนค่ะ อย่างรูปที่ถ่ายมานี้ เราไปเที่ยวมาเมื่อปีที่แล้ว ช่วงวันที่ 4 เมษายนค่ะ ซึ่งดอกไม้กำลังบานสวยพอดีเลย
วันนี้พวกเราสองคนขับออกจากบ้านแต่เช้า เพราะมีนัดเจอกับเพื่อนที่ Köln ในช่วงตอนเย็นกันค่ะ เนื่องจากเห็นว่าเมือง บอนน์กับ เมืองโคโลญนี้อยุ่ไม่ไกลกันมาก เลยชวนสามีแวะเที่ยวเมืองบอนน์กันก่อน เพราะเรายังเวลาอีกหลายชั่วโมงกว่าจะถึงเวลานัดในช่วงตอนเย็น ใช่แล้วค่ะ เราอยากจะมาเที่ยว และแวะถ่ายรูปอุโมงค์ดอกไม้ในเขตเมืองเก่าของเมืองบอนน์นั่นเอง เพราะเคยเห็นในรูปว่าสวยมาก แถมเค้าบอกว่า เป็นอุโมค์ดอกไม้ที่สวยที่สุดในยุโรปด้วย
Breite straße
เป็นถนนตรง Altstadt ที่มีดอกไม้เยอะที่สุด และสวยกว่าถนนอื่นค่ะ สิ่งที่ชอบมากในดอกไม้ชนิดนี้ที่สุดคือ สีหวานสวย สดใส และเวลาบานเต็มที่จะเป็นพุ่มสวยมาก และต้นเชอร์รี่นี้เค้าปลูกยาวเรียงกันสุดถนนเลย ทำให้เห็นเป็นอุโมงค์ดอกไม้ที่ยาว และสวยที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาเลยค่ะ นอกจากนั้นถนนตรงนี้จะมีป้ายสีน้ำเงิน ที่เขียนว่า Altstadt ด้วย ถ้ามาตอนกลางคืนป้ายสัญลักษณ์นี้จะมีแสงด้วย ทำให้คนชอบมาถ่ายรูปกับป้ายนี้ตอนกลางคืนเยอะเลย แต่เนื่องเราสองคนไม่ได้พักค้างคืนที่นี่เลยอดเห็นและถ่ายรูปป้ายนี้ตอนกลางคืนเลย
Heerstraße
ถนนเส้นนี้ก็มีดอกเชอรี่เหมือนกันค่ะ แต่อาจไม่เยอะมากเท่าถนนตรงถนน Breite straße แต่ก็สวยใช้ได้เหมือนกัน ถนนทั้งสองสายนี้เดินทะลุกันได้ค่ะ ตรงนี้จะมีข้อดีคือคนจะน้อยกว่าด้วยค่ะ ทำให้ถ่ายรูปได้สบายๆ นอกจากนั้นสิ่งที่ชอบอีกอย่างบนถนนทั้งสองสายนี้คือ นอกจากความสวยของดอกไม้แล้ว เรายังเห็นข้างทางมีร้านขายของที่ระลึก ร้านกาแฟเก๋ๆ ร้านเสื้อผ้าบูติกชิคๆ น่าแวะหลายร้านเลย แอบเห็นร้านขายของชำจากเอเชียด้วย (Asia Shop) แต่ไม่ได้แวะเข้าไปดู คิดว่าถ้ามีโอกาสมาอีก จะแวะไปซะหน่อย ว่ามีอะไรขายบ้างค่ะ
นอกเหนือจากนั้น ถ้าเที่ยวที่นี่เป็นช่วงวันหยุดจะมี Flohmarkt ด้วย คือเหมือนประมาณถนนคนเดินบ้านเรา มีเสื้อผ้า เครื่องใช้มือสอง เก๋ๆ ราคาน่าคบ ของกินก็มี ซึ่งเดินดู เดินช้อป ถ่ายรูปไป เพลินเลยค่ะ เราสองคนได้ของไปหลายอย่างเลยในวันนี้ แวะร้านนั้นร้านนี้ที แถมอากาศวันนี้ก็เป็นใจ คืออากาศดีมากมีแดดอ่อนๆ ไม่หนาวหรือร้อนจนเกินไป วันที่เรามากันมีนักดนตรีมาร้อง และบรรเลงเพลงแบบเปิดหมวกให้ฟังด้วย ทำให้บรรยากาศดีขึ้นไปอีกค่ะ
สิ่งที่อยากจะแนะนำอีกอย่างคือ เราสองคนขับรถมากัน ถึงว่ามีที่จอดรถรอบๆแถวนี้เยอะเลย ไม่แพงด้วย แต่มีข้อเสียคือ ถนนแคบ และรถติดมากๆค่ะ เพราะฉะนั้นถ้าจะมาเที่ยวแถวนี้คือ หาที่พักข้างนอกแล้วนั่งพวกรถราง หรือรถโดยสารเข้ามาในเมืองจะสะดวกกว่าค่ะ
แต่อากาศช่วงเดือนเมษายนนี้จะเย็นๆ อยู่นะคะ อากาศเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ถ้าใครมาเที่ยวเยอรมันช่วงเดือนนี้อาจต้องเตรียมเสื้อกันหนาวมาด้วย เพราะบางวันอาจจะ 12-15 องศา แต่บางวันอาจตกไปเป็น 1 หรือ 2 องศาเลยทีเดียว วันที่เรามากัน ถึงแม้จะอากาศดีในช่วงกลางวัน แต่ตอนเย็นๆ อากาศหนาวมาก หาเสื้อกันหนาวใส่แทบไม่ทันเลยค่ะ
เสียดายที่พวกเราเป็นวันเสาร์คนเลยเยอะไปหน่อย ทำให้ถ่ายรูปลำบากมาก และเลี่ยงยากที่จะถ่ายรูปไม่ให้ติดคนอื่นเลย แต่อย่างว่าทุกคนก็อยากถ่ายรูปเก็บไว้ในความทรงจำ และชมความสวยของดอกไม้เหมือนๆกันกับเราเนาะ 🙂 ถ้าจะแนะนำก็พยายามมาเที่ยวที่นี่ช่วงวันปกติน่าจะดีกว่า และนอกจากนั้นถนนตรงนี้ไม่ใช่ถนนคนเดิน ทำให้มีรถผ่านไปมาตลอด เพราะฉะนั้นเราก็ต้องถ่ายรูปไปหลบไป หลบทั้งคนหลบทั้งรถค่ะ 🙂
ยังไงก็ดีถือว่าเป็นวันที่ดีวันหนึ่ง และเป็นวันที่ฝันเป็นจริง เพราะอยากมาเที่ยวที่นี่นานแล้ว แล้วในที่สุดเราก็ได้มาเห็นกับตา สวยจริงๆ สมแล้วที่เค้าบอกว่าที่นี่เป็นอุโมงค์ดอกไม้ที่สวยที่สุดในยุโรปค่ะ
video
อ่านสถานที่เที่ยวอื่นๆ