หมู่เกาะคานารี (2)

หมู่เกาะคานารี (Canary Islands) ทำไมถึงอบอุ่นตลอดปี?

เที่ยวนอกเยอรมัน

หมู่เกาะคานารีเป็นกลุ่มเกาะภูเขาไฟในมหาสมุทรแอตแลนติก เป็นดินแดนส่วนหนึ่งของสเปน แต่ตั้งอยู่ใกล้กับชายฝั่งแอฟริกา (โมร็อกโกและซาฮาราตะวันตก) ทำให้ที่นี่แตกต่างจากยุโรปอื่น ๆ อย่างสิ้นเชิง!

หมู่เกาะคานารีได้ชื่อว่าเป็น “ดินแดนแห่งฤดูใบไม้ผลิอันเป็นนิรันดร์” (The Land of Eternal Spring) เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากปัจจัยทางภูมิศาสตร์ที่ลงตัว ดังนี้:

  1. กระแสลมร้อนจากทะเลทรายซาฮารา (Sahara-Wind):
    • เนื่องจากอยู่ใกล้กับทวีปแอฟริกาและทะเลทรายซาฮารา หมู่เกาะจึงได้รับอิทธิพลของลมร้อนและอากาศแห้ง ซึ่งช่วยรักษาอุณหภูมิในระดับสูงอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในฤดูหนาว
  2. กระแสน้ำอุ่นในมหาสมุทรแอตแลนติก (Atlantikströmungen):
    • กระแสน้ำอุ่นคานารีที่ไหลผ่านช่วยทำให้ผิวน้ำทะเลมีอุณหภูมิคงที่ ไม่หนาวจัด และช่วยลดความร้อนสูงสุดในช่วงฤดูร้อน
  3. สภาพภูมิอากาศกึ่งเขตร้อน (Subtropisches Klima):
    • ด้วยตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ ทำให้มีสภาพอากาศกึ่งเขตร้อน ที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยสบาย ๆ อยู่ระหว่าง 18 องศา ถึง 24 องศา ตลอดทั้งปี ทำให้ผู้คนสามารถเที่ยวทะเลได้แทบทุกเดือน!

หมู่เกาะคานารีประกอบด้วย 7 เกาะหลักที่เป็นที่รู้จัก และเกาะย่อยอื่น ๆที่น่าค้นหา โดยแต่ละเกาะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ทำให้ได้ชื่อว่าเป็น “ทวีปขนาดจิ๋ว” (A Continent in Miniature) ได้แก่

1. เกาะ Tenerife

    เป็นเกาะมีทุกอย่างครบ ทั้งชายหาด, เมืองเก่า, และพื้นที่ภูเขาไฟที่ชื่อว่า ยอดเขา Teide ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในสเปน ที่ดึงดูดนักปีนเขาและนักดาราศาสตร์ มีแหล่งบันเทิง อย่างเช่นเมืองทางใต้ที่คึกคัก (เช่น Playa de las Américas) และสวนสนุกระดับโลก (Siam Park) มีความแตกต่างของสภาพอากาศ อย่างทางใต้จะร้อนและแห้ง ทางเหนือจะเย็นและมีเมฆมากค่ะ

    เหมาะสำหรับ ผู้ที่ชอบความหลากหลาย, ครอบครัว, ผู้ที่ชอบแสงสีและความบันเทิง

    2. เกาะ Gran Canaria

    มีภูมิประเทศที่หลากหลายที่สุดในบรรดาหมู่เกาะ (ทะเลทราย, ป่าไม้, ภูเขา) มีเมือง Las Palmas ซึ่งเป็นเมืองหลวงของเกาะที่มีชีวิตชีวาและมีประวัติศาสตร์ นอกจากนั้นยังมีเนินทราย Maspalomas ที่เป็นทะเลทรายขนาดใหญ่ริมทะเลที่เป็นเอกลักษณ์ ต้องอาจต้องระวังในช่วงฤดูท่องเที่ยวอาจมีการจราจรติดขัดในพื้นที่ท่องเที่ยวยอดนิยมค่ะ และพื้นที่ทางเหนือจะมีอากาศเย็นและชื้นกว่าทางใต้ค่ะ

    เหมาะสำหรับ ผู้ที่ต้องการความหลากหลายในทริปเดียว, นักช้อปปิ้ง, นักเดินป่า (ในพื้นที่ภูเขา)

    3. เกาะ Lanzarote

    ภูมิประเทศที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร (อุทยานแห่งชาติ Timanfaya) เป็นเกาะที่มีสถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลจากศิลปิน César Manrique ทำให้การก่อสร้างถูกจำกัดและสวยงามเป็นระเบียบ บนเกาะมีน้ำทะเลที่ใสเหมาะสำหรับการดำน้ำ แต่บนเกาะอาจขาดความเขียวขจีหน่อยนะคะ เนื่องจากเป็นเกาะภูเขาไฟ ทำให้มีพืชน้อยกว่าเกาะอื่น ๆ และมักมีลมแรงตลอดในหลายพื้นที่ (แต่ดีสำหรับกีฬาทางน้ำค่ะ)

    เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบงานศิลปะและสถาปัตยกรรม, คู่รัก, ผู้ที่มองหาประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร

    4. เกาะ Fuerteventura

    มีชายหาดที่ยาวและสวยงามที่สุดในยุโรป เหมาะสำหรับคนที่ชอบกีฬาทางน้ำ จัดได้ว่าเป็นสวรรค์ของนักวินด์เซิร์ฟและไคท์เซิร์ฟ และยังมีความเงียบสงบ เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่ยังคงเป็นธรรมชาติ ไม่วุ่นวายเท่า Tenerife ต้องระวังอย่างหนึ่งคือ ลมที่เกาะนี้แรงมาก ลมเป็นจุดเด่นแต่ก็เป็นจุดด้อยได้หากต้องการพักผ่อนแบบไม่มีลม และการเดินทางระหว่างเมืองอาจใช้เวลานานกว่า เนื่องจากเกาะมีขนาดยาวค่ะ

    เหมาะสำหรับ ผู้ที่ชื่นชอบชายหาดเป็นชีวิตจิตใจ, นักกีฬาทางน้ำ, ผู้ที่ต้องการพักผ่อนแบบเรียบง่าย

    5. เกาะ La Palma

    Isla Bonita (เกาะสวยงาม) มีความเขียวชอุ่มและอุดมสมบูรณ์กว่าเกาะอื่น ๆ เหมาะกับการการดูดาวเพราะมีท้องฟ้าที่มืดสนิทและมีหอดูดาวระดับโลกด้วย (Roque de los Muchachos) นอกจากนั้นยังมีเส้นทางเดินป่าที่สวยงามและหลากหลาย แต่อาจจะไม่เหมาะสำหรับคนที่เน้นมาพักร้อนที่มีชายหาด เพราะชายหาดส่วนใหญ่เป็นทรายภูเขาไฟสีดำ และมีขนาดเล็ก และ มีฝนตกบ่อยกว่าเกาะทางตะวันออกค่ะ (Lanzarote, Fuerteventura)

    เหมาะสำหรับ นักเดินป่า, ผู้ชื่นชอบธรรมชาติ, นักดาราศาสตร์, ผู้ที่ชอบการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน

    6. เกาะ La Gomera

    บนเกาะจะเป็นป่าโบราณ หรือที่เรียกว่า อุทยานแห่งชาติ Garajonay (ป่าดิบชื้นยุคดึกดำบรรพ์) ที่เต็มไปด้วยหมอก เป็นเกาะที่เล็กและเงียบสงบ มีเสน่ห์แบบดั้งเดิม มีภาษาผิวปากที่เป็นมรดกโลกที่เรียกว่า Whistled Language (Silbo Gomero) แต่การเดินทางอาจเข้าถึงยากนิดหนึ่งเพราะต้องเดินทางโดยเรือเฟอร์รี่จาก Tenerife ไป และไม่เหมาะกับรถเช่า เนื่องจากบนเกาะมีถนนที่คดเคี้ยวและแคบมากๆมากๆค่ะ

    เหมาะสำหรับ นักเดินป่าสายจริงจัง, ผู้ที่ต้องการความสงบ, ผู้สนใจวัฒนธรรมและธรรมชาติที่แปลกใหม่

    7. เกาะ El Hierro

    เป็นเกาะแรกของโลกที่ใช้พลังงานหมุนเวียนเกือบ 100% บนเกาะนี้มีจุดดำน้ำที่สวยงามระดับโลก เป็นเกาะที่ยังไม่ถูกรบกวนจากการท่องเที่ยวเชิงพาณิชย์ ทำให้บนเกาะนี้สิ่งอำนวยความสะดวกที่จำกัดค่ะ เช่น ที่พักและร้านอาหารที่มีตัวเลือกน้อยกว่าเกาะใหญ่ และการเข้าถึงก็ยากด้วย เพราะต้องเดินทางโดยเรือเฟอร์รี่หรือเครื่องบินภายในประเทศที่มีขนาดเล็กค่ะ

    เกาะนี้จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการนักดำน้ำ, ผู้ที่สนใจการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ, ผู้ที่ต้องการหลีกหนีผู้คนอย่างแท้จริง


    สรุปภาพรวม

    • ถ้าอยากไปแบบครบเครื่อง ทั้งเที่ยวและปาร์ตี้ ให้เลือกเกาะ Tenerife หรือเกาะ Gran Canaria ค่ะ
    • ถ้าชอบชายหาดและกีฬาทางน้ำ ให้เลือกเกาะ Fuerteventura
    • ถ้าชอบธรรมชาติแปลกตา ภูเขาไฟ และงานศิลป์ ให้เลือกเกาะ Lanzarote
    • ถ้าชอบเดินป่า ธรรมชาติที่เขียวชอุ่ม และดูดาว ให้เลือกเกาะ La Palma
    • ถ้าต้องการความสงบ ความเป็นส่วนตัว และนิเวศวิทยา ให้เลือกเกาะ La Gomera หรือเกาะ El Hierro ค่ะ

    ใครที่กำลังมองหาสถานที่หนีหนาว หรืออยากสัมผัสแสงแดดในเดือนที่ยุโรปกำลังเย็นจัดนะคะ แนะนำเลยว่าหมู่เกาะคานารีคือคำตอบเลยค่ะ:)