ดีใจที่ได้มีโอกาสไปเที่ยวฝรั่งเศสรอบที่สอง ทำให้มีโอกาสได้ขึ้นหอไอเฟลซักที เพราะอยากขึ้นมานานแล้วค่ะ ที่ได้มาปารีสครั้งนี้ เนื่องจากได้ไปเป็นแขกร่วมงานแต่งงานของเพื่อนรุ่นน้องคนไทยที่สนิทมากคนหนึ่ง น้องเค้าแต่งงานกับหนุ่มฝรั่งเศสและได้ส่งใบเชิญมา พี่นี้รีบตอบคำเชิญทันที เพราะดูตารางงานแล้วไปได้แน่นอน แถมน้องที่เชิญก็สนิทและรู้จักกันมานานแล้วด้วย รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติมากๆค่ะ
เนื่องจากเราอยู่เยอรมันอยู่แล้ว ทำให้การเดินทางมาฝรั่งเศสไม่ยุ่งยาก เพราะก็ถือว่าไม่ไกลมานัก เนื่องจากเยอรมันและฝรั่งเศสเป็นเพื่อนบ้านกัน จากที่เราอยู่สามารถนั่งรถไฟมาแค่ 3 ชั่วโมงกว่าๆก็ถึงปารีสแล้วค่ะ
พอมาถึงเราก็เข้าไปเก็บข้าวของเข้าที่พัก ที่ทางน้องเค้าจัดไว้ให้ ทักทายกัน ก่อนที่จะออกไปเดินเที่ยวกันสองคน ส่วนน้องกับแฟนก็ขอตัวรอรับแขกคนอื่นๆต่อ เพราะยังมีแขกอีกหลายคนที่มาจากประเทศอื่นๆ ที่ยังเดินทางมาไม่ถึงกัน ว่าแล้วก็ออกไปเที่ยวกันดีกว่าค่ะ
เราเดินมาเรื่อยๆตามที่น้องเค้าบอกทางมา ระหว่างทาง พอใกล้ถึงก็เห็นคนมุงเยอะๆ เราเลยเข้าไปดู ปรากฎว่าเป็นจุดที่เจ้าหญิงไดอาน่าสิ้นพระชนน์ แล้วตรงนี้บังเอิญเป็นอนุสาวรีย์คบไฟแห่งเสรีภาพ ของขวัญจากหนังสือพิมพ์ อินเตอร์เนชันแนล เฮอรัลด์ ทริบูน มอบให้แด่กรุงปารีส ตอนนี้ได้กลายเป็นสถานที่รำลึกการสิ้นพระชนน์ของเจ้าหญิงไดอาน่าไปแล้วค่ะ คนก็เลยเยอะ และสวนธารณะข้างๆตรงอุโมงค์ที่เกิดเหตุ ทางกรุงปารีสก็จะเปลี่ยนชื่อของสวนสาธารณะ ด้วย เป็นชื่อของเจ้าหญิงไดอาน่า เพื่อเป็นการรำลึกถึงอดีตเจ้าหญิงแห่งเวลส์ ผู้ล่วงลับนั่นเองค่ะ
เราสองคนยืนอ่าน และดูรูปของเจ้าหญิงไดอาน่ากันจนหมดแล้ว ก็เดินต่อไปที่หอไอเฟล ซึ่งอยู่ไม่ไกลมากนัก สามารถมองเห็นจากจุดนี้ได้เลยค่ะ
เราเดินมาถึง คนเยอะเหมือนเดิม วันนี้อากาศร้อนมาก แถมเป็นช่วงบ่ายอากาศยิ่งร้อนมากเข้าไปอีก เราก็ถ่ายรูปเล่นรอบๆ หอไอเฟลแล้ว พี่ก็ชวนสามีขึ้นหอไอเฟลกัน เพราะไหนๆก็มาแล้ว ถ่ายรูปแทบทุกมุมแล้ว อยากถ่ายรูปวิวจากข้างบน เห็นมุมสูงจากหอไอเฟล และจะได้ไปคุยกับคนอื่นได้ว่า เราเคยขึ้นหอไอเฟลมาแล้ว 5555
สามีก็ตอบตกลง เพราะอีกอย่างเราไม่มีแพลนเที่ยวที่อื่นอีก เนื่องจากตอนค่ำๆพวกเรามีนัดทานข้าวกับว่าที่บ่าวสาว และเพื่อนๆของเค้านั่นเอง เพราะวันแต่งคือวันพรุ่งนี้ เราสองคนก็เลยต้องการทำความรู้จักกับเพื่อนๆของเค้าด้วย
เนื่องจากไม่ได้แพลนว่าจะขึ้นข้างบนหอไอเฟลกัน เราเลยไม่ได้ซื้อตั๋วออนไลน์กันมาก่อน เลยต้องรอคิวซื้อตั๋วตรงข้างล่างหอไอเฟลเลย และคิวคนที่รอซื้อตั๋วคือยาวมากๆ เพราะฉะนั้นแนะนำเลยว่า ใครจะมาขึ้นหอไอเฟล ให้ซื้อตั๋วออนไลน์มาก่อนดีกว่า เพราะไม่งั้นต้องยืนนานมากๆกว่าจะได้ซื้อตั๋ว เท่านั้นยังไม่พอ ได้ตั๋วแล้วยังต้องรอคิวขึ้นลิฟท์อีกนะ คือใช้เวลาสุดๆ กะไว้เลยว่าเสียเวลากว่าจะได้ขึ้นเนี่ย 2-3 ชั่วโมงเลยค่ะ
สิ่งที่ควรรู้ก่อนขึ้นหอไอเฟล
ราคาขึ้นอยู่กับว่าเราจะขึ้นไปชั้นไหน ขึ้นด้วยลิฟท์ หรือเดินขึ้นขึ้นบันได หรือตั๋วที่ขึ้นทั้งลิฟท์และบันได เช่นเราสองคนขึ้นไปชั้นบนสุด ขึ้นลิฟท์ราคาตั๋วต่อคนคือ 25,90 ยูโร แต่ถ้าไปแค่ชั้นสองด้วยลิฟท์ราคา 16,60 ยูโร
ราคาเด็ก ,วัยรุ่นหรือวัยหนุ่มสาวและผู้ใหญ่ราคาจะต่างกันนะ และเด็กต่ำกว่า 4 ขวบขึ้นฟรีค่ะ
ดูราคาตั๋วและรายละเอียด https://www.toureiffel.paris/en/rates-opening-times
เตือน…ก่อนซื้อตั๋วออนไลน์
1. อย่าลืมใส่ชื่อของทุกคนลงในตั๋วด้วย เพราะบนตั๋วจะต้องมีชื่อของทุกคนที่ซื้อตั๋วค่ะ
2.ก่อนกดจองซื้อตั๋วควรเช็ค วัน เวลา ปี ให้เรียบร้อยอีกรอบ เพราะถ้ากดยืนยันจองไปแล้ว จะไม่สามารถเปลี่ยนวัน วันที่ หรือคืนได้
3.อย่าลืมเก็บอีเมล์ ที่เราได้มาจากการจองซื้อตั๋วไว้ด้วย ทั้งพาสเวิร์ดและยูสเซอร์เนม
4.อย่าลืมปริ๊นตั๋วออกมาด้วย ต้องเห็นที่สแกนชัดเจน ปริ๊นด้วยกระดาษ A4 กระดาษขาว
หรือสามารถโชว์ตั๋วด้วยมือถือก็ได้
5.อย่าลืมเอาสำเนาพาสปอร์ตหรือบัตรประจำตัวไปด้วย เพราะเจ้าหน้าที่จะตรวจชื่อ นามสกุลว่าตรงกับบัตรไหม
ร้านอาหารบนหอไอเฟล
La bulle Parisienne (First Fl)
เป็นอาหารสไตล์ฝรั่งเศสตามฤดูกาล อยู่ชั้น 1 เลยค่ะ มีบริการอาหารเช้า กลางวันและเย็น ทั้งมีของหวานหลากหลาย มีไวน์บาร์ด้วย
The Jules Verne (Second Fl)
เป็นอาหารกูร์เม่ต์ร่วมสมัยโดย Frédéric Anton ร้านอาหารอยู่สูงจากพื้นดิน 125 เมตร อยู่ชั้น 2 ของหอไอเฟล สำหรับคนที่ต้องความหรูหราทันสมัย แถมร้านอาหารนี้ยังติดดาวระดับหนึ่งของมิชลินด้วยนะ
The Buffets ( Esplanade, 1st & 2nd floor )
เป็นอาหารปุฟเฟย์นานาชาติ อร่อย รวดเร็ว สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาค่ะ มีทั้งอาหารร้อนและเย็นบริการ หรือจะซื้ออาหารเพื่อเอากลับไปทานที่บ้านก็ได้ด้วยค่ะ
The Champagne Bar (The top)
ตั้งอยู่ชั้นบนสุดของหอไอเฟล สำหรับคนที่ต้องการความโรแมนติก จิบแชมเปญพร้อมดูวิวเมืองปารีสจากความสูง 276 เมตรค่ะ (ปล. แชมเปญแบบไม่มีแอลกแฮอล์ก็มีบริการนะคะ)
Macaroon Bar (Second floor)
ไม่แวะชิมไม่ได้แล้ว ขนมมีชื่ออีกอย่างของฝรั่งเศส มีหลายรสให้เลือก แถมยังซื้อกลับก็ได้นะ
ดูรายละเอียดเกี่ยวกับร้านอาหารเพิ่มเติมได้ที่ https://www.toureiffel.paris/en/restaurants-shops
การเดินทางไปหอไอเฟล
Metro สาย 9, 8 และ สาย 6
RER สาย C
Bus (รถบัส ) สาย 82 และสาย 42
Car (ขับรถมาเอง) ก็มีที่จอดแบบจ่ายเงินที่ใกล้ๆก็มี เช่น Parking Pullman Tour Eiffel หรือ 443 Avenue Joseph Bouvard และ 2 Place Joffre, 75007 Paris
ที่อยู่ของหอไอเฟล (La Tour Eiffel)
Champ de Mars, 5 Avenue Anatole France, 75007 Paris
นอกจากนั้น ข้างบนยังมี ไวไฟให้เล่นฟรีด้วยนะ ล็อคอิน _WiFi_Tour_Eiffel และพาสเวิร์ดคือให้ใส่อีเมล์แอดเดรสของเราในฟอร์มที่โชว์ เราก็ใช้ไวไฟฟรีได้แล้วค่ะ บอกเลยว่าคุ้มค่ากับราคาค่ะ ถ้าใครมีโอกาสมาเที่ยวปารีส อย่าลืมลองขึ้นเที่ยวข้างบนหอไอเฟลดูนะคะ เพราะวิวข้างบนสวยมาก บอกเลยว่าจะประทับใจสุดๆค่ะ
อยากบอกอีกอย่างคือ สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังทุกที่ จะมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวกันเยอะ ทำให้พวกมิจฉาชีพก็จะเยอะขึ้นไปด้วย ตอนที่พวกเราลงมาข้างล่างกันแล้ว เดินเล่นถ่ายรูปกันต่อ และนั่งพักกินไอติมกันอยู่นั้น ยังมีพวกนี้วนเวียนรอโอกาสที่จะแกของมีค่า เนื่องจากเรานั่งมองคนรอบๆอยู่แล้ว ทำให้เห็นถึงความผิดสังเกต พวกเราเลยรีบกินและเดินออกจากจุดตรงนั้นทันที
แค่เลยอยากจะเตือนว่า ทุกครั้งที่ไปเที่ยว อย่าประมาท จงระวังตัวไว้เสมอ แต่ใช่ว่าจะระแวงจนทำให้การเที่ยวไม่สนุกไปเลยนะคะ ยังไงก็ดีขอให้ทุกคนเที่ยวอย่างมีความสุข และปลอดภัยค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก The Official Eiffel Tower website
อ่านเรื่องท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่นๆต่อ